Fluoxetine (ฟลูออกซิทีน)

Fluoxetine (ฟลูออกซิทีน)

Fluoxetine (ฟลูออกซิทีน) เป็นยาต้านซึมเศร้าในกลุ่ม SSRI (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors) ออกฤทธิ์เพิ่มปริมาณของสารเซโรโทนินในสมอง จึงช่วยปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง ยานี้ใช้รักษาอาการที่เกิดจากภาวะซึมเศร้า โรคแพนิค (Panic Disorder) โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคบูลิเมีย และกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน (PMDD)

ฟลูออกซิทีนจัดเป็นที่ต้องใช้ตามที่แพทย์สั่งเพื่อรักษาโรคเท่านั้น ผู้ใช้ยาไม่ควรปรับขนาดยาและหยุดยาเอง  เพราะอาจทำให้อาการของโรคกำเริบหรือเกิดอาการขาดยาได้ และห้ามใช้ยาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของแพทย์ เช่น รับประทานเป็นยาลดความอ้วน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับอาการทางจิตได้
Fluoxetine

เกี่ยวกับยา Fluoxetine

กลุ่มยา ยาต้านซึมเศร้ากลุ่ม SSRI
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาอาการจากภาวะซึมเศร้า โรคแพนิค โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคบูลิเมีย และกลุ่มอาการอารมณ์ผิดปกติก่อนมีประจำเดือน
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา สำหรับหญิงที่ให้นมบุตร Fluoxetine สามารถไหลผ่านน้ำนมไปสู่ทารกได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเช่นเดียวกัน
รูปแบบของยา ยาเม็ดและแคปซูล

คำเตือนการใช้ยา Fluoxetine

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังรับประทานยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรใด ๆ รวมถึงยาต้านซึมเศร้าชนิดอื่น ๆ ในกลุ่ม SSRI
  • ผู้ที่มีอาการแพ้ยา Fluoxetine ห้ามใช้ยานี้
  • ผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรคไต เบาหวาน หัวใจ ต้อหินชนิดมุมแคบ ไบโพลาร์ โรคลมชักหรือมีอาการชัก มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เคยใช้สารเสพติดหรือคิดฆ่าตัวตาย หรือเคยได้รับการรักษาด้วยการช็อคไฟฟ้า (ECT) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้
  • การใช้ยาต้านซึมเศร้าในกลุ่ม SSRI ระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงเกี่ยวกับปอดหรือภาวะแทรกซ้อนต่อทารกในครรภ์ แต่การหยุดใช้ยากะทันหันก็อาจทำให้อาการซึมเศร้าทรุดลงอีก ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากระหว่างรับประทานยานี้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ห้ามเริ่มหรือหยุดใช้ยาเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รับประทานยานี้โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • ยานี้อาจทำให้สติและความสามารถในการขับขี่หรือการทำงานลดลง ควรระมัดระวังการขับขี่ยานยนต์ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือทำงานที่เสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง และหากใช้ยาควบคู่กับแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มผลข้างเคียงให้เกิดขึ้นได้
  • ยานี้อาจทำให้เกิดความคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเอง คนรอบข้างควรเฝ้าระวัง ส่วนตัวผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีความรู้สึกดังกล่าว
  • ผู้ที่รับประทานยาบางรายอาจรู้สึกว่าผิวหนังไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ ควรทครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด

ปริมาณการใช้ยา Fluoxetine

ยา Fluoxetine มีปริมาณการใช้ที่แตกต่างกันออกไปตามโรคที่ต้องการรักษา และดุลยพินิจของแพทย์ เช่น 

รักษาโรคซึมเศร้า

ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เบื้องต้นรับประทานครั้งละ 20 มิลลิกรัม วันละครั้ง โดยอาจเพิ่มปริมาณยาที่ใช้ หากอาการยังไม่ดีขึ้นในอีกหลายสัปดาห์ต่อมา โดยปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัม/วันในผู้ใหญ่ และไม่เกิน 40 มิลลิกรัม/วันในผู้สูงอายุ ส่วนปริมาณยาสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจะอยู่ที่ 20–60 มิลลิกรัม/วัน กรณีรับประทานวันละมากกว่า 20 มิลลิกรัม ควรแบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง

เด็กอายุ 8–18 ปี เบื้องต้นรับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง หลังจากผ่านไป 1–2 สัปดาห์อาจค่อย ๆ เพิ่มปริมาณเป็น 20 มิลลิกรัม/วัน แต่หากเด็กมีน้ำหนักตัวน้อย ให้รับประทานเบื้องต้น 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง และเพิ่มเป็น 20 มิลลิกรัม/วัน หากผ่านไปหลายสัปดาห์แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น

รักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ

ผู้ใหญ่ เบื้องต้นรับประทานครั้งละ 20 มิลลิกรัม วันละครั้ง และสามารถเพิ่มปริมาณยาหากอาการของโรคย้ำคิดย้ำทำยังไม่ดีขึ้นใน 2–3 สัปดาห์ โดยปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัม/วันในผู้ใหญ่ และไม่เกิน 40 มิลลิกรัม/วันในผู้สูงอายุ ส่วนปริมาณสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 20–60 มิลลิกรัมต่อวัน

เด็กอายุ 7–18 ปี เบื้องต้นให้รับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง หลังจากนั้น 2 สัปดาห์อาจเพิ่มปริมาณเป็น 20 มิลลิกรัม/วัน โดยปริมาณสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัม/วัน ส่วนปริมาณยาสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 20–60 มิลลิกรัม/วัน

เด็กที่น้ำหนักตัวน้อยลงมา ควรเริ่มต้นที่ 10 มิลลิกรัมต่อวัน หากหลายสัปดาห์ต่อมายังไม่ดีขึ้นสามารถเพิ่มปริมาณยาได้ โดยปริมาณสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัม ส่วนปริมาณสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 20–30 มิลลิกรัม/วัน

รักษาโรคบูลิเมีย

ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 60 มิลลิกรัม วันละครั้ง หรือแบ่งเป็นวันละ 2 ครั้ง ซึ่งผู้ป่วยอาจต้องเริ่มรับประทานที่ปริมาณน้อยก่อนจะเพิ่มขึ้นเท่ากับปริมาณที่แนะนำ

รักษาโรคแพนิค (Panic Disorder)

ผู้ใหญ่ เบื้องต้นรับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง หากยังไม่ดีขึ้นแพทย์อาจให้เพิ่มปริมาณยาเป็น 20 มิลลกรัมหลังใช้ยาไปแล้ว 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นอาจเพิ่มปริมาณขึ้นอีกหากอาการยังไม่ดีขึ้น โดยเพิ่มจะเพิ่มปริมาณสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัม/วัน ส่วนปริมาณยาสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจะอยู่ที่ 20–60 มิลลิกรัมต่อวัน

รักษากลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน (PMDD)

ผู้ใหญ่ที่มีกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน เบื้องต้นรับประทานครั้งละ 20 มิลลิกรัม วันละครั้งขณะที่มีประจำเดือน

ส่วนในช่วงที่ประจำเดือนยังไม่มาให้รับประทานครั้งละ 20 มิลลิกรัม วันละครั้ง โดยเริ่มรับประทาน 14 วันก่อนมีประจำเดือนจนถึงวันแรกที่ประจำเดือนมา และรับประทานซ้ำในรอบเดือนถัดไป สามารถเพิ่มปริมาณยาสูงสุดได้ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนปริมาณยาสำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจะอยู่ที่ 20–60 มิลลิกรัมต่อวัน

การใช้ยา Fluoxetine

ยา Fluoxetine มีข้อบ่งใช้ ดังนี้

  • รับประทานตามปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ ทำตามฉลากกำกับการใช้ยาอย่างเคร่งครัด อย่ารับประทานมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณที่กำหนด ทั้งนี้แพทย์อาจมีการเปลี่ยนปริมาณยาที่ใช้บ้าง เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • รับประทานด้วยการกลืนยาลงไปทั้งเม็ด อย่าเคี้ยว กัด หรือทำให้แคปซูลแตกออกก่อน
  • ยา Fluoxetine อาจใช้เวลา 4–6 สัปดาห์ อาการจึงจะดีขึ้น ให้รับประทานยาต่อไปให้ครบตามกำหนด หากอาการไม่ดีขึ้นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • อย่าหยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันหรือโดยพลการ เพราะอาจทำให้เกิดอาการถอนยา ควรสอบถามแพทย์ถึงวิธีหยุดใช้ยาที่ปลอดภัย
  • หากลืมรับประทานยาให้รับประทานทันที หรือข้ามมื้อนั้นไปเมื่อใกล้ได้เวลารับประทานยาครั้งต่อไปแล้ว ห้ามเพิ่มปริมาณยาทดแทน
  • ยานี้ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง โดยห่างจากความร้อนและความชื้น

ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อตรวจดูความคืบหน้าของการรักษา หากยา Fluoxetine ทำให้เกิดผลข้างเคียง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นที่อาจให้ผลการรักษาที่ดีกว่า

ปฏิกิริยาระหว่างยา Fluoxetine กับยาอื่น 

Fluoxetine สามารถอยู่ในร่างกายได้นานหลายสัปดาห์หลังจากรับประทานยาครั้งสุดท้าย และอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นๆ อีกหลายชนิด หากเคยใช้ยาฟลูออกซีทีนในช่วง 5 สัปดาห์ก่อน ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยาใดๆ

ห้ามใช้ยา Fluoxetine หากภายใน 14 วันที่ผ่านมามีการใช้ยากลุ่ม MAOI เนื่องจากยาอาจทำปฏิกิริยาต่อกันและเป็นอันตรายรุนแรงต่อสุขภาพ ต้องหยุดใช้ยากลุ่ม MAOI ได้แก่ ลีเนโซลิด (Linezolid) ฟีเนลซีน (Phenelzine) ไอโซคาร์บอกซาซิด (Isocarboxazid) และเซเลกิลีน (Selegiline) เมทิลีน บลู (Methylene Blue) แล้วรออย่างน้อย 14 วันจึงจะเริ่มรับประทานยาฟลูออกซิทีน

ยานี้อาจชะลอการกำจัดยาอื่นๆ ออกจากร่างกาย เช่น ยาพิโมไซด์ (Pimozide) หรือยาไทโอริดาซีน (Thioridazine) ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยา หากใช้ยาฟลูออกซีทีนร่วมกับยาอื่นที่ทำให้ง่วงนอน เช่น ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ และยารักษาโรควิตกกังวลหรืออาการชัก อาจยิ่งทำให้รู้สึกง่วงซึมได้มากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ

นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรสอบถามแพทย์ก่อนการใช้ Fluoxetine ร่วมกับยาต่อไปนี้ เนื่องจากอาจทำให้มีอาการฟกช้ำหรือเลือดออกได้ง่าย

  • ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs ซึ่งเป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ บวม หรืออาการปวดข้อ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) แอสไพริน (Aspirin) นาพรอกเซน (Naproxen) ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) อินโดเมธาซิน (Indomethacin)
  • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาฟาริน (Warfarin) และดาบิกาทราน (Dabigatran)

อย่างไรก็ตาม ยา Fluoxetine อาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นนอกจากที่ระบุข้างต้น จึงควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนเสมอหากใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดใดอยู่ รวมถึงยาใด ๆ ที่ใช้และหยุดใช้ไปแล้วในช่วงระหว่างที่รับประทานยา Fluoxetine

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Fluoxetine 

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Fluoxetine ที่พบบ่อย ได้แก่

  • ปวดและเวียนศีรษะ
  • ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  • มีอาการสั่น รู้สึกวิตกกังวลหรือกระวนกระวาย
  • ง่วงซึม อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าผิดปกติ
  • ปากแห้ง กระหายน้ำมากขึ้น เหงื่อออกมาก ร้อนวูบวาบ
  • คัดจมูก เจ็บคอ มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
  • ความอยากอาหารและน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงไป
  • นอนไม่หลับ ฝันแปลก
  • ความต้องการทางเพศลดลง มีปัญหาในการหลั่งอสุจิ

ผลข้างเคียงรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา Fluoxetine  เช่น

  • ตาพร่ามัว เจ็บตา ตาบวม เห็นแสงรอบดวงไฟ หรือการมองเห็นแคบลง
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง
  • เวียนศีรษะเฉียบพลัน รู้สึกคล้ายจะเป็นลม
  • มีไข้สูง
  • หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นผิดจังหวะ
  • หายใจลำบาก
  • พูดไม่ชัด สับสน รู้สึกมึนงงและตื่นเต้นจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
  • อ่อนเพลียอย่างรุนแรง เสียการทรงตัว
  • มีรอยช้ำโดยไม่ทราบที่มา และมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดออกทางช่องคลอด ประจำเดือนมามาก มีเลือดออกขณะไอ ขับถ่าย และปัสสาวะ

ผู้ใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ทันทีที่มีอาการบ่งบอกถึงผลข้างเคียงที่เกิดจากการแพ้ยา เช่น มีผื่นขึ้น ใบหน้าและลำคอบวม หายใจลำบาก มีไข้ เจ็บที่ผิวหนัง มีผื่นสีม่วงหรือแดง ผิวลอกและตกสะเก็ด

นอกจากนั้น หากพบว่ามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับสภาพจิตใจ หรืออาการของโรคทางจิตที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้น เช่น อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป มีอาการวิตกกังวล ตื่นตระหนก กระสับกระส่าย ซึมเศร้า เกิดความคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเอง ควรรีบไปพบแพทย์