Furosemide (ฟูโรซีไมด์)
Furosemide (ฟูโรซีไมด์) คือ ยาขับปัสสาวะชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติช่วยขับของเหลวส่วนเกินในร่างกายออกมาทางปัสสาวะ และช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้ดูดซึมเกลือหรือโซเดียมมากจนเกินไป นอกจากนี้ ยาดังกล่าวยังใช้ลดอาการบวมน้ำซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของภาวะหัวใจวาย โรคตับ โรคไต และโรคไตรั่ว (Nephrotic Syndrome) รวมถึงรักษาภาวะความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย ยาชนิดนี้เป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น เพราะเป็นยาที่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก
เกี่ยวกับยา Furosemide
กลุ่มยา | ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ และลดความดันโลหิต |
กลุ่มผู้ป่วย | เด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ |
รูปแบบของยา | ยาเม็ด และยาฉีด |
คำเตือนในการใช้ยา Furosemide
- ผู้ที่มีอาการแพ้ยา Furosemide ไม่ควรใช้ยานี้
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการปัสสาวะ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถปัสสาวะได้ไม่ควรใช้ยานี้
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต ต่อมลูกหมากโต กระเพาะปัสสาวะอุดตัน หรือปัญหาอื่้น ๆ เกี่ยวกับการปัสสาวะ ตับแข็ง โรคตับ ระดับเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูง โรคเก๊าท์ โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคเบาหวาน หรือแพ้ยากลุ่มซัลฟา (Sulfa) ควรแจ้งแพทย์ก่อนได้รับยานี้
- ผู้ป่วยที่มีการใช้ยาชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นยาที่แพทย์สั่งและยาที่ซื้อใช้เอง โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต ยาโรคเบาหวาน ยาแอสไพริน ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs ) หรือยารักษาอาการทางจิตควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนได้รับยา Furosemide
- ผู้ที่ใช้ยานี้ควรแจ้งแพทย์หากต้องเข้ารับการเอกซเรย์ เนื่องจากสารย้อมสีและยาดังกล่าวอาจทำปฏิกิริยาต่อไตได้
- การใช้ยา Furosemide อาจส่งผลให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้นจนทำให้เกิดแผลไหม้แดดได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ใช้ครีมกันแดด สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิดก่อนออกกลางแจ้งทุกครั้ง
- ยาชนิดนี้อาจส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์ หรือเด็กที่ได้รับน้ำนมจากมารดาที่ใช้ยานี้ได้ ดังนั้นควรแจ้งแพทย์ให้ทราบหากตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพื่อที่แพทย์จะได้วางแผนการรักษาที่ส่งผลกระทบต่อทารกน้อยที่สุด
ปริมาณการใช้ยา Furosemide
ชนิดฉีด
- รักษาภาวะน้ำท่วมปอดแบบเฉียบพลัน
- ผู้ใหญ่ เบื้องต้นให้ 40 มิลลิกรัม โดยให้อย่างช้า ๆ ติดต่อกัน 1-2 นาที หากไม่ตอบสนองต่อการรักษาภายใน 1 ชั่วโมง อาจเพิ่มยาเป็น 80 มิลลิกรัมโดยให้อย่างช้า ๆ ติดต่อกัน 1-2 นาที
ชนิดเม็ดรับประทาน
รักษาอาการบวมน้ำเนื่องจากหัวใจวาย
- ผู้ใหญ่ เบื้องต้นรับประทานวันละ 40 มิลลิกรัม อาจสามารถลดลงเหลือวันละ 20 มิลลิกรัม หรือ 40 มิลลิกรัม วันเว้นวันได้ ตามความรุนแรงของอาการ ในบางกรณีที่ต้องให้ 80 มิลลิกรัม หรือมากกว่านั้น อาจต้องแบ่งรับประทานหลายครั้งต่อวัน
- ผู้สูงอายุ เบื้องต้นรับประทาน 20 มิลลิกรัม จากนั้นปรับเพิ่มขนาดยาได้หากจำเป็น
รักษาความดันโลหิตสูง
- ผู้ใหญ่ 40-80 มิลลิกรัมต่อวัน สามารถให้ควบคู่กับยารักษาความดันโลหิตสูง หรือใช้เพียงชนิดเดียวได้
การใช้ยา Furosemide
ยา Furosemide เป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น ทั้งนี้ยาดังกล่าวใช้ในการขับปัสสาวะ เพื่อลดอาการบวมน้ำ และความดันโลหิตสูง ปริมาณการใช้จะขึ้นอยู่กับอาการของโรค ผู้ป่วยไม่สามารถเพิ่มหรือลดยาเองได้หากไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์ เพราะการใช้ยาในปริมาณที่มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร
Furosemide รับประทานได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร และอาจทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะบ่อยขึ้น และเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำได้ง่าย ดังนั้นหากไม่ต้องการใช้ฤทธิ์ของยารบกวนการนอนหลับ ควรรับประทานยาก่อนเวลา 18.00 น. หากลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในครั้งต่อไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยา
ในการใช้ยานี้ควรทำตามคำแนะนำแพทย์ และอาจต้องใช้อาหารเสริมโพแทสเซียม และควรรับประทานอาหารที่มีเกลือและโพแทสเซียมให้เพียงพอ นอกจากนี้ ในขณะใช้ยาผู้ป่วยจะเป็นจำต้องได้รับการตรวจเลือดเป็นระยะ เพื่อติดตามอาการ
สำหรับสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานยา Furosemide เนื่องจากยาชนิดนี้ส่งผลโดยตรงต่อทารกในครรภ์ ส่วนในสตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร แม้จะไม่มีผลวิจัยได้ยืนยันว่ายาดังกล่าวส่งผลต่อทารกที่ได้รับน้ำนม แต่ยาดังกล่าวอาจส่งผลต่อคุณภาพของน้ำนมได้ ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้ยา ผู้ป่วยจะต้องได้รับทราบถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในจากการใช้ยา เพื่อให้ผู้ป่วยชั่งน้ำหนักและตัดสินใจถึงผลที่จะได้รับหากใช้ยานี้
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Furosemide
ยานี้มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ซึ่งมีทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย หรือเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อยา โดยผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้น้อยกับผู้ป่วย แต่ถ้าหากพบแล้วควรรีบไปพบแพทย์โดยทันทีได้แก่
- เจ็บหน้าอก
- หอบเหนื่อย
- หนาวสั่น
- ไอ และเสียงแหบ
- ไข้ขึ้นสูง
- มีอาการบวมของต่อมน้ำเหลือง
- ปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะไม่ออก
- ปวดหลัง หรือบริเวณสีข้าง
- ปวดศีรษะ
- เหนื่อย หรืออ่อนแรงผิดปกติ
- มีเลือดออกตามร่างกาย หรือมีรอบฟกช้ำที่ผิดปกติ
นอกจากนี้ ยังมีอาการที่เกิดจากการได้รับยาเกินขนาดซึ่งควรรีบไปพบแพทย์โดยทันทีที่มีอาการเหล่านี้
- ปัสสาวะลดลง
- มีอาการง่วงเหงาหาวนอน
- หัวใจเต้นเร็วขึ้น หรือรู้สึกใจสั่น
- การเต้นของหัวใจผิดปกติ
- หงุดหงิด ฉุนเฉียว อารมณ์แปรปรวน
- กล้ามเนื้อเกร็ง
- มีอาการเหน็บชา เจ็บปวด หรือมีอาการอ่อนแรงที่มือ เท้าและริมฝีปาก
- หายใจเร็ว
- กระหายน้ำบ่อยผิดปกติ
- ชีพจรเต้นเบา
- ผิวหนังมีรอยย่น
การใช้ยา Furosemide อาจทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง และก่อให้เกิดอาการเหล่านี้ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่อันตราย ได้แก่
- มีความรู้สึกไวต่อการเคลื่อนไหวของตนเองหรือรอบข้าง
- มีผื่นลมพิษ
- ผิวหนังอาจเกิดอาการแพ้แสงแดด จนทำให้เกิดแผลไหม้แดดอย่างรุนแรง
- กล้ามเนื้อกระตุก
- ผิวหนังแดง หรือมีสีที่เปลี่ยนแปลงไป
- รู้สึกอยู่ไม่สุข
- อาการบ้านหมุน
- มีอาการอ่อนแรง
ทั้งนี้อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวแล้วจะหายไป แต่ถ้าหากอาการไม่ทุเลาลง หรือเป็นติดต่อกันนานผิดปกติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วนเพื่อความปลอดภัย