Loperamide (ยาโลเพอราไมด์)
Loperamide (ยาโลเพอราไมด์) เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการท้องเสียแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง แต่ไม่สามารถใช้รักษาสาเหตุโดยตรงที่ทำให้ท้องเสียได้ จึงห้ามใช้กับอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร โดยยามีกลไกการออกฤทธิ์ช่วยทำให้การบีบตัวของลำไส้และทำให้น้ำในอุจจาระลดลง อย่างไรก็ตาม ยา Loperamide มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
เกี่ยวกับยา Loperamide
กลุ่มยา | ยาแก้ท้องเสีย (Antidiarrheals) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | บรรเทาอาการท้องเสีย |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน |
คำเตือนของการใช้ยา Loperamide
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้หากเคยมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบในยานี้ รวมไปถึงยาอื่น ๆ
- ก่อนใช้ยานี้ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากกำลังใช้ยาอื่น ๆ ได้แก่ ยาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ ยาที่ซื้อใช้เอง วิตามิน และสมุนไพร เพราะเมื่อใช้ร่วมกับส่วนประกอบบางชนิดของยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้
- ไม่ควรใช้ยาหรือควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีอาการปวดท้องที่ไม่ใช่ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืดบวม ปวดท้องรุนแรง ท้องอืด อุจจาระดำหรือมีมูกเลือดปน มีไข้ ท้องเสียมากกว่า 2 วัน และผู้ที่มีความผิดปกติของการทำงานของตับหรือเป็นโรคเอดส์
- ยานี้อาจมีผลกระทบต่อคลื่นไฟฟ้าของหัวใจที่ผิดปกติ (QT Prolongation)
- ยานี้อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหรือง่วงนอน ดังนั้น ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตรายและต้องใช้ความระมัดระวัง นอกจากนั้น ควรจำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
- ผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้ได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่คลื่นไฟฟ้าของหัวใจผิดปกติ (QT Prolongation)
- ไม่ควรใช้ยานี้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้ได้ง่าย โดยเฉพาะอาการเวียนศีรษะ นอกจากนั้น เด็กยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย
- ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยาต่อยา Loperamide โดยเฉพาะหากกำลังใช้ยาต่อไปนี้ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- ยาควินิดีน (Quinidine) หรือยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir) เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา Loperamide
- ยาซาควินาเวียร์ (Saquinavir) เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพยาลดลง
ปริมาณการใช้ยา Loperamide
ท้องเสียแบบฉับพลัน
ผู้ใหญj: รับประทานขนาดเริ่มต้น 2 แคปซูล และตามด้วย 1 แคปซูล ภายหลังจากที่ขับถ่าย
ท้องเสียแบบเรื้อรัง
ผู้ใหญ่: รับประทานขนาดเริ่มต้น 2 แคปซูล ต่อวัน และอาจปรับขนาดยาหากถ่ายอุจจาระแข็งตัวขึ้น 1-2 ครั้ง ใน 1 วัน โดยขนาดยาปกติ คือ 1-6 แคปซูลต่อวัน ปริมาณการใช้ยาสูงสุดสำหรับท้องเสียเฉียบพลันและเรื้อรังไม่เกิน 8 แคปซูลต่อวัน
*ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา
การใช้ยา Loperamide
ควรใช้ยาตามฉลากหรือตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยานี้ในปริมาณที่มากกว่าหรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
- ยานี้สามารถรับประทานพร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้
- ไม่ควรใช้ยาในปริมาณมากกว่าที่แพทย์แนะนำ หรือใช้เป็นเวลานานกว่า 48 ชั่วโมง โดยไม่ได้พบแพทย์
- หากอาการท้องเสียไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง หรือมีอาการแย่ลง ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
- ในกรณีที่ลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด ให้รับประทานยาได้ทันที แต่หากใกล้ถึงเวลารับประทานยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในรอบถัดไป ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่าและหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบพบแพทย์
- ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสงแดดและความชื้น หากยาหมดอายุให้ทิ้งทันที
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Loperamide
ระหว่างใช้ยาอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ หากเป็นต่อเนื่องหรือรบกวนชีวิตประจำวัน ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ ได้แก่ ปากแห้ง ง่วงนอน คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกไม่สบายท้อง ท้องอืด ท้องผูก เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย นอกจากนั้น หากพบว่ามีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยาที่รุนแรง ได้แก่ ผื่น คัน ลมพิษ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หน้าบวม ปากบวม หรือลิ้นบวม
- หายใจมีเสียงหวีด
- เบื่ออาหาร
- ท้องผูก
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
- มีอาการบวม แดง แผลพุพอง หรือผิวซีด
- ท้องอืด ท้องบวม หรือปวดท้อง
- อุจจาระดำหรือมีมูกเลือดปน
- ตาพร่า
- มองเห็นไม่ชัดเจน
นอกจากนั้น อาจมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ เกิดขึ้นได้นอกเหนือจากอาการข้างต้น ซึ่งหากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรรีบแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที