Methamphetamine (เมทแอมเฟตามีน)
Methamphetamine (เมทแอมเฟตามีน) เป็นยากระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางที่มีฤทธิ์ช่วยเปลี่ยนแปลงปริมาณของสารในสมองและส่งผลต่อเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์และภาวะอยู่ไม่นิ่ง จึงนำมาใช้ช่วยเพิ่มสมาธิและการจดจ่อในผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder: ADHD) และใช้รักษาผู้ป่วยโรคอ้วน (Obesity) ที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยการควบคุมอาหารหรือการรักษาวิธีอื่น เพื่อช่วยให้ควบคุมความอยากอาหารได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ยา Methamphetamine จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งมีข้อห้ามใช้และเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงสูง ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ
เกี่ยวกับยา Methamphetamine
กลุ่มยา | ยากระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | รักษาโรคสมาธิสั้น โรคอ้วน |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่และเด็ก |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน |
คำเตือนในการใช้ยา Methamphetamine
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงยากระตุ้นชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากกำลังใช้ยาโอปิออยด์ ยาสมุนไพร ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาอาการป่วยทางจิต ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยารักษาไมเกรน ยารักษาการติดเชื้อรุนแรง หรือยาป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียน เพราะยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยาเมทแอมเฟตามีนและก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือเกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน (Serotonin Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่ร้ายแรง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ หากมีภาวะความดันโลหิตสูงระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรง ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ ต้อหิน มีอาการวิตกกังวลรุนแรง กระสับกระส่าย เครียด หรือมีประวัติติดยาเสพติดหรือติดแอลกอฮอล์
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ความดันโลหิตสูง คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจหรือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เพราะยาชนิดนี้มีสารกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ หากใช้ยารักษาโรคซึมเศร้ากลุ่มเอมเอโอไอ (Monoamine Oxidase Inhibitor: MAOI) ในช่วง 14 วันก่อนหน้านี้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
- หากคนในครอบครัวของผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า โรคทางจิต มีอาการทางจิต คิดฆ่าตัวตาย โรคไบโพลาร์ โรคทูเร็ตต์ (Tourette's Disorder) โรคลมชัก โรคเบาหวาน มีการไหลเวียนของเลือดบริเวณมือหรือเท้าผิดปกติ หรือตรวจพบว่ามีคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- การใช้ยา Methamphetamine รักษาโรคอ้วน ควรใช้ในกรณีที่การควบคุมอาหารหรือการใช้ยาอื่นไม่ได้ผลเท่านั้น
- ก่อนเข้ารับการรักษาใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้
- ระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจเพื่อติดตามผลการรักษาเป็นประจำ
- ไม่อนุญาตให้ใช้ยากับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี และไม่อนุญาตให้ใช้สำหรับรักษาโรคอ้วนในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือวางแผนมีบุตรควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้ยานี้ เพราะการใช้ยาในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ หรือเกิดอาการถอนยาในทารกแรกเกิด
- ห้ามให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้
- ระหว่างใช้ยาควรระมัดระวังในการขับรถหรือการทำกิจกรรมที่ต้องมีความตื่นตัว เพราะยานี้อาจส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางความคิดหรือการตอบสนองของร่างกาย
ปริมาณการใช้ยา Methamphetamine
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้
ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 5 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร 30 นาที ระยะเวลาในการใช้ยาไม่ควรเกิน 2-3 สัปดาห์
เด็ก อายุ 12 ปี ขึ้นไป รับประทานยาปริมาณ 5 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร 30 นาที ระยะเวลาในการใช้ยาไม่ควรเกิน 2-3 สัปดาห์
เด็ก อายุ 6 ปีขึ้นไป รับประทานยาปริมาณเริ่มต้น 5 มิลลิกรัม วันละ 1 หรือ 2 ครั้ง
สำหรับการรักษาเพื่อคงอาการ อาจเพิ่มปริมาณครั้งละ 5 มิลลิกรัม/สัปดาห์ จนกว่าผู้ป่วยจะมีการตอบสนองต่อยา ปริมาณโดยทั่วไปที่ให้ผลดีคือ 20-25 มิลลิกรัม/วัน
การใช้ยา Methamphetamine
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
- ห้ามใช้ยาในเวลาเย็น เพราะอาจทำให้มีปัญหาในการนอนหลับ
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้หรือบริโภควิตามินซีพร้อมกันกับยานี้ เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมยาได้น้อยลง
- ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติติดยาเสพติด
- หากผู้ป่วยรู้สึกอยากอาหารมากขึ้นในระหว่างที่ใช้ยานี้เพื่อรักษาโรคอ้วน ให้หยุดใช้ยาและแจ้งให้แพทย์ทราบ
- การให้หรือขายยานี้แก่ผู้อื่นถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
- ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นจากความชื้น ความร้อน แสงแดด และห่างจากสายตาผู้อื่น
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Methamphetamine
การใช้ยา Methamphetamine มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสีย ท้องผูก สั่น น้ำหนักลด และเบื่ออาหาร หากอาการแย่ลงหรือพบผลข้างเคียงรุนแรงต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม เป็นต้น
- หัวใจทำงานผิดปกติ อาจทำให้มีอาการหายใจติดขัด คล้ายจะหมดสติ หรือเจ็บหน้าอก
- อาการผิดปกติทางจิต เช่น หลอนหรือได้ยินและเห็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง หวาดระแวง ก้าวร้าว มีพฤติกรรมผิดปกติ เป็นต้น
- การไหลเวียนเลือดผิดปกติ อาจมีอาการบ่งชี้ เช่น ชา ปวด รู้สึกหนาว เกิดบาดแผลโดยไม่ทราบสาเหตุ สีผิวของนิ้วมือหรือนิ้วเท้าเปลี่ยนแปลงไป
- เกิดความผิดปกติด้านการมองเห็น
- กล้ามเนื้อกระตุก
- อาการชัก
- กลุ่มอาการเซโรโทนิน เช่น กระสับกระส่าย หลอน มีไข้ สั่น เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เสียความสมดุลของร่างกาย เมื่อยกล้ามเนื้อ มีอาการกระตุก ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยา Methamphetamine อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กได้ หากพบว่าเด็กมีการเจริญเติบโตผิดปกติระหว่างใช้ยา หรือพบอาการผิดปกตินอกเหนือจากข้างต้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ