Selenium (ซีลีเนียม)
Selenium (ซีลีเนียม) คือ แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ และนำมาใช้ทางการแพทย์ในบางกรณี เช่น รักษาภาวะขาด Selenium รักษาโรคความผิดปกติของต่อมไทรอยด์และระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
Selenium ที่ถูกนำมาใช้มีทั้งแบบรับประทานและแบบฉีด โดยร่างกายไม่สามารถสร้างสารนี้ขึ้นมาได้เอง แต่จะพบได้ในดินและในอาหารบางชนิด เช่น ธัญพืช เนื้อวัว อาหารทะเล เป็นต้น แม้อาจนำ Selenium มาใช้ประโยชน์ในการรักษาได้ แต่หากได้รับสารนี้มากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน ดังนั้น ควรใช้อาหารเสริม Selenium ในปริมาณและวิธีการที่แพทย์แนะนำเสมอ
เกี่ยวกับ Selenium
กลุ่มยา | อาหารเสริม |
ประเภทยา |
ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาหาซื้อได้เอง |
สรรพคุณ | รักษาภาวะขาด Selenium รักษาโรคความผิดปกติของต่อมไทรอยด์และระบบภูมิคุ้มกัน |
กลุ่มผู้ป่วย |
ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยาฉีด ยารับประทาน |
คำเตือนในการใช้ Selenium
- หากแพ้ Selenium หรือเคยแพ้ยาที่มีสารประกอบใกล้เคียงกัน ไม่ควรใช้อาหารเสริมชนิดนี้
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังใช้ Selenium อยู่ เพราะอาหารเสริมชนิดนี้อาจทำให้ผลการตรวจบางอย่างคลาดเคลื่อนได้
- ผู้ที่กำลังฟอกไต เป็นโรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็งผิวหนัง หรือมีภาวะขาดไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ Selenium
- การใช้ Selenium ในปริมาณมากเกินไป หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรใช้ Selenium เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ใช้
ปริมาณในการใช้ Selenium
ภาวะขาด Selenium
ใช้ Selenium แบบรับประทาน แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือแบบฉีดเข้าเส้นเลือดในปริมาณ 100-500 ไมโครกรัม/วัน
การใช้ Selenium
- ใช้ Selenium ตามปริมาณที่กำหนดบนฉลากยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการรักษา การแพ้ยาหรือสารอื่น ๆ เพราะ Selenium อาจมีส่วนประกอบของสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
- หากใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดอื่นอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายหากใช้ร่วมกับ Selenium
- หากใช้ Selenium เกินปริมาณที่กำหนด ควรรีบไปพบแพทย์
- หากต้องเข้ารับการผ่าตัดในระหว่างที่ใช้ Selenium ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าใช้อาหารเสริมชนิดนี้อยู่ เพราะอาจจำเป็นต้องหยุดใช้ Selenium ก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์
- หากลืมใช้ Selenium ให้ใช้ทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้เวลาใช้ในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้รอบต่อไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณ
- ห้ามใช้อาหารเสริม Selenium ของผู้อื่น และไม่ให้ผู้อื่นใช้ของตนเองเช่นกัน
- เก็บบรรจุภัณฑ์ไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงและความชื้น
ผลข้างเคียงจากการใช้ Selenium
การใช้ Selenium อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้อย่างหลากหลาย หากใช้ในปริมาณมากเป็นเวลานานก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ด้วย ดังนั้น หากเกิดความผิดปกติขึ้นในระหว่างที่ใช้ Selenium ให้หยุดใช้แล้วรีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนหากมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการแพ้หลังใช้ Selenium เช่น คัน หน้าบวม ปากบวม หายใจลำบาก เป็นต้น
นอกจากนี้ การใช้ Selenium อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรูปแบบอื่นได้ เช่น
- ผมร่วง เล็บเปราะ
- วิงเวียนศีรษะ
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- บวมช้ำง่าย เลือดออกง่าย
- ผิวหนังแดง หรือเป็นโรคผิวหนังบางชนิด
- ร่างกายอ่อนแอ หรือรู้สึกอ่อนเพลีย
- ลมหายใจมีกลิ่นคล้ายกระเทียม การรับรสเปลี่ยนแปลงไป