Succinylcholine (ซัคซินิลโคลีน)

Succinylcholine (ซัคซินิลโคลีน)

Succinylcholine (ซัคซินิลโคลีน) เป็นยาคลายกล้ามเนื้อหดเกร็งที่ใช้ระหว่างการผ่าตัดหรือการใช้เครื่องช่วยหายใจ และอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ได้ตามดุลยพินิจของแพทย์ ทั้งนี้ ยา Succinylcholine มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ การใช้ยาจึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

succinylcholine

เกี่ยวกับยา Succinylcholine

ยาคลายกล้ามเนื้อ

กลุ่มยา
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวระหว่างผ่าตัดหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาฉีดทางหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์
และผู้ให้นมบุตร
Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่าทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่ามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ รวมทั้งแจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังให้นมบุตร เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อบุตรได้

คำเตือนในการใช้ยา Succinylcholine

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากมีประวัติแพ้ยา หรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงยา อาหารและสารอื่น ๆ เพราะยาอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการแพ้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา
  • หากตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวมีประวัติป่วยของภาวะ Pseudocholinesterase Deficiency ภาวะ Malignant Hyperthermia หรือมีอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อ (Myopathy) ที่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ครีเอทินิน ฟอสโฟไคเนส (CPK) ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยานี้ เนื่องจากหากได้รับยา Succinylcholine อาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น หรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยา หากมีประวัติหรืออาการเจ็บป่วยใด ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ตรวจพบต้อหิน มีประวัติของโรคทางระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ โรคเกี่ยวกับปอดหรือระบบหายใจอย่างหอบหืด ผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือมีแผลไหม้บริเวณกว้างบนผิวหนัง รวมถึงมีระดับแมกนีเซียมในเลือดสูง แคลเซียมในเลือดสูง หรือโพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia) 
  • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงยาที่ใช้อยู่ เนื่องจากยา Succinylcholine อาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิดเช่น ยารักษาโรคหัวใจหรือความดันโลหิต ยารักษามะเร็ง ยารักษาโรคเกี่ยวกับท้องอย่างยาเมโทโคลพราไมด์ (Metoclopramide) ยาปฏิชีวนะอย่างยาอะมิคาซิน (Amikacin) ยาคลินดามัยซิน (Clindamycin) ยาเจนตามัยซิน (Gentamicin) ยาที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิงและยาคุมกำเนิดประเภทต่าง ๆ รวมถึงยาระงับความรู้สึกทั่วไป เช่น ยาฮาโลเทน (Halotane) ยาไอโซฟลูเรน (Isoflurane) เป็นต้น
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ วางแผนมีบุตร หรือกำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้

การใช้ยา Succinylcholine

วิธีใช้ยาเพื่อความปลอดภัยมีดังนี้

  • ยา Succinylcholine ใช้ฉีดหรือหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ หรือฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • การใช้ยา Succinylcholine ในเด็กต้องปรึกษากุมารแพทย์ก่อน
  • ก่อนรับการรักษาโรคหรืออาการอื่น ๆ ควรแจ้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกรหรือทันตแพทย์ที่ทำการรักษาอยู่หากได้รับยานี้
  • หากมีอาการผิดปกติหลังจากใช้ยา หรืออาการรุนแรงขึ้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • การเก็บรักษายาจะถูกเก็บที่โรงพยาบาลหรือสถานที่ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถเก็บไว้ที่บ้านได้ แต่หากต้องการเก็บรักษายาไว้ที่บ้าน ควรปรึกษาแพทย์ พยาบาลหรือเภสัชกร
  • ไม่ใช้ยานี้ร่วมกับผู้อื่น
  • หากพบว่าใช้ยาเกินขนาด ควรรีบแจ้งแพทย์ทันที

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Succinylcholine

ยา Succinylcholine อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ในบางกรณีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากพบว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที โดยผลข้างเคียงที่อาจพบได้มีดังนี้

  • ผลข้างเคียงจากการแพ้ยา เช่น ผิวแดง บวม มีตุ่ม ลมพิษ ผดผื่นคันหรือผิวลอก บางครั้งอาจมีไข้ แน่นหน้าอก การหายใจ การกลืนอาหารหรือพูดได้ลำบาก เสียงแหบผิดปกติ มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้นหรือลำคอ
  • ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง ส่งผลให้เกิดอาการ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการอ่อนแรง รู้สึกวิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม รู้สึกชา หรืออาจหายใจหอบเหนื่อย 
  • มีสัญญาณของระดับความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ เช่น ปวดหรือเวียนศีรษะ หมดสติ หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น
  • มีสัญญาณของอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ เช่น ปัสสาวะมีสีเข้ม ปัสสาวะลำบากหรือปริมาณปัสสาวะผิดปกติ รู้สึกอ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ ฯลฯ
  • เกิดภาวะ Malignant Hyperthermia หากมีอาการหัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็วผิดปกติ มีไข้สูง หรือมีอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ควรรีบไปพบแพทย์เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • ผลข้างเคียงอื่น เช่น หัวใจเต้นช้าลง ชัก เป็นตะคริว เจ็บหรือแน่นหน้าอก ความดันตาสูงขึ้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุต่อไป