อัลทีเพลส (Alteplase)
Alteplase (อัลทีเพลส) เป็นยารูปแบบฉีดที่ใช้รักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด โดยตัวยาจะช่วยสลายลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดบริเวณหัวใจ ปอด หรือสมอง นอกจากนี้อาจนำยามาใช้ในการรักษาหรือป้องกันปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามดุลยพินิจแพทย์
เกี่ยวกับยา Alteplase
กลุ่มยา | ยาสลายลิ่มเลือด (Thrombolytics) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | สลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจและภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยาฉีด |
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร | Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ ผู้ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น |
คำเตือนในการใช้ยา Alteplase
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยา Alteplase ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยา Alteplase รวมถึงยาและสารอื่น ๆ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ โดยเฉพาะยาแอสไพริน ยาวาฟาริน (Warfarin) หรือยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เพราะยาหรือสารบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกมากผิดปกติ
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยาหากผู้ป่วยมีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ มีเลือดออกในอวัยวะภายใน มีเลือดออกหรือมีเนื้องอกในสมอง ความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง หรือโรคเบาหวานขึ้นตา
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากเคยป่วยหรือมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง โรคตับ โรคไตหรือโรคหัวใจ ติดเชื้อหรือเกิดรอยช้ำบริเวณที่ฉีดยา ได้รับอุบัติเหตุอย่างรุนแรง และผ่าตัดบริเวณสันหลังหรือสมอง
- ยา Alteplase อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกอย่างรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยเร็วที่สุด หากเคยมีประวัติเลือดออกผิดปกติหลังเจาะเลือดหรือหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยควรใช้ของมีคมหรือแปรงฟันอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บในระหว่างการใช้ยา Alteplase เนื่องจากยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดภาวะเลือดไหลผิดปกติ
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ปริมาณการใช้ยา Alteplase
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยา Alteplase ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยตัวอย่างการใช้ยามีดังนี้
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดเฉียบพลัน (Acute Massive Pulmonary Embolism)
ตัวอย่างการใช้ยา Alteplase เพื่อรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดเฉียบพลัน
ผู้ใหญ่ ให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 10 มิลลิกรัม โดยใช้เวลาอย่างน้อย 1–2 นาที จากนั้นให้ยาในปริมาณ 90 มิลลิกรัม โดยใช้เวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัม
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute Myocardial Infarction)
ตัวอย่างการใช้ยา Alteplase เพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
สูตรเพิ่มปริมาณยาอย่างรวดเร็วจะให้ยาภายใน 6 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 65 กิโลกรัม เริ่มให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 15 มิลลิกรัมในครั้งแรก จากนั้นให้ยาในปริมาณ 0.75 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม ตามด้วยให้ยาในปริมาณ 0.5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 35 มิลลิกรัม
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 65 กิโลกรัม เริ่มให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 15 มิลลิกรัมในครั้งเดียว จากนั้นให้ยาในปริมาณ 50 มิลลิกรัม โดยใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที ตามด้วยให้ยาในปริมาณ 35 มิลลิกรัมโดยใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
สูตรยา 3 ชั่วโมง
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 65 กิโลกรัม แพทย์จะค่อย ๆ ให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 1.25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยชั่วโมงแรกให้ยาในปริมาณ 0.75 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เริ่มจากให้ยาปริมาณ 6–10 มิลลิกรัมทันทีในเวลา 1–2 นาที และค่อย ๆ ให้ยาที่เหลือใน 1 ชั่วโมงจนครบ ชั่วโมงที่ 2 และ 3 จะปรับปริมาณยาเป็น 0.25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/ชั่วโมง
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 65 กิโลกรัม แพทย์จะค่อย ๆ ให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 100 มิลลิกรัมในเวลา 3 ชั่วโมง โดยชั่วโมงแรกจะให้ยาปริมาณ 60 มิลลิกรัม เริ่มจากให้ยาปริมาณ 6–10 มิลลิกรัมทันทีในเวลา 1–2 นาที และค่อย ๆ ให้ยาที่เหลือจนครบ ชั่วโมงที่ 2 และ 3 จะให้ยาในปริมาณชั่วโมงละ 20 มิลลิกรัม/ชั่วโมง
ทั้งนี้ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาชนิดอื่นร่วมด้วยในระหว่างและหลังจากที่ให้ยา Alteplase เช่น ยาเฮพาริน (Heparin) และยาแอสไพริน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา
โรคหลอดเลือดสมองอุดตันฉับพลัน (Acute Ischemic Stroke)
ตัวอย่างการใช้ยา Alteplase เพื่อรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตันฉับพลัน
ผู้ใหญ่ ให้ยาทางหลอดเลือดดำในปริมาณ 0.9 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ในระยะเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง โดยให้ยาภายใน 3–4.5 ชั่วโมงหลังจากผู้ป่วยแสดงอาการ เริ่มจากให้ยาปริมาณร้อยละ 10 จากปริมาณยาทั้งหมดก่อนในช่วง 1 นาทีแรก ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 90 มิลลิกรัม
การใช้ยา Alteplase
ยา Alteplase เป็นยาฉีดโดยแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แพทย์จะสังเกตอาการแพ้ รูปแบบการหายใจ ระดับออกซิเจนและระดับความดันโลหิตสูงหลังการฉีดยาอย่างใกล้ชิด และผู้ป่วยจะต้องนอนพักหลังให้ยาเพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะเลือดไหลผิดปกติ
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการใช้ยา Alteplase หรือเพิ่งได้รับยาเข้าสู่ร่างกาย ไม่ควรใช้ยาชนิดอื่น ๆ นอกเหนือจากที่แพทย์กำหนด และแพทย์อาจจ่ายยาละลายลิ่มเลือดชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติมร่วมกับการใช้ยา Alteplase เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดซ้ำในร่างกาย
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Alteplase
การใช้ยา Alteplase อาจส่งผลให้มีไข้ เวียนศีรษะ คลื่นไส้หรืออาเจียน ซึ่งหากอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหลังการดูแลตัวเอง ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
รวมถึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากปวดท้อง คลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างรุนแรง นิ้วมือหรือนิ้วเท้าเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ หน้ามืด หายใจไม่อิ่ม หัวใจเต้นช้า เจ็บหน้าอกและลามไปยังกรามและไหล่ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และปวดหลังอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์โดยเร็วหากพบอาการที่รุนแรงดังนี้
- เกิดอาการแพ้ยา เช่น ผื่น คัน ลมพิษ หายใจลำบาก มีอาการบวมบริเวณริมฝีปาก ลิ้น ใบหน้าหรือลำคอ
- ปวดท้องอย่างรุนแรงและลุกลามไปยังหลัง
- มีสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง เช่น ปวดหัวอย่างรุนแรง มีปัญหาด้านการพูดหรือความเข้าใจ ชาตามใบหน้า แขนหรือขา ไม่สามารถทรงตัวได้ และการมองเห็นเปลี่ยนแปลง
เกิดภาวะเลือดไหลผิดปกติ เช่น ผิวช้ำง่าย มีเลือดกำเดาหรือมีเลือดออกตามไรฟัน ประจำเดือนมามาก ไอหรือขับถ่ายเป็นเลือด