เนบิโวลอล (Nebivolol)
Nebivolol (เนบิโวลอล) เป็นยารักษาภาวะความดันโลหิตสูง โดยออกฤทธิ์ยับยั้งสารเคมีที่กระตุ้นหลอดเลือดและหัวใจ ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงและหัวใจเต้นช้าลง อีกทั้งความดันโลหิตที่ลดลงอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด หรือโรคเกี่ยวกับไต นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคหรือภาวะอื่นตามดุลยพินิจของแพทย์
เกี่ยวกับยา Nebivolol
กลุ่มยา | กลุ่มยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blockers) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | ลดความดันโลหิตสูงและรักษาโรคหัวใจ |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน |
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร | Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยกำลังตั้งครรภ์ วางแผนจะมีบุตร หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเองและทารกมากที่สุด |
คำเตือนในการใช้ยา Nebivolol
ข้อควรทราบเพื่อความปลอดภัยก่อนการใช้ยา Nebivolol มีดังนี้
- แจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบหากมีอาการแพ้ยา Nebivolol หรือมีอาการแพ้สารอื่น ๆ ในตัวยา โดยผู้ป่วยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับส่วนประกอบของยา Nebivolol
- หากกำลังใช้ยา วิตามิน หรือสมุนไพรชนิดใดอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ เช่น ยาไซเมทิดีน (Cimetidine) ยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ยารีเซอร์พีน (Reserpine) ยาโคลนิดีน (Clonidine) ยารักษาโรคซึมเศร้า อย่างยาพาร็อกซีทีน (Paroxetine) หรือยาฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) และยารักษาโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจบางชนิด เพราะอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยากับยา Nebivolol ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่เคยป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว หลอดลมอักเสบ โรคหืด โรคตับ โรคไต โรคภูมิแพ้ โรคทางจิตเวช โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคถุงลมโป่งพอง ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ หรือมีเนื้องอกต่อมหมวกไตชนิดฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
- ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยา Nebivolol โดยเด็ดขาดหากมีอาการแพ้ยา Nebivolol เป็นโรคหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ตามปกติ กลุ่มอาการซิคไซนัส (Sick Sinus Syndrome: SSS) โรคไตขั้นรุนแรง หรือโรคหัวใจระดับรุนแรง อย่างภาวะหัวใจล้มเหลว
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังวางแผนตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากการใช้ยา Nebivolol ในระหว่างการตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ และแพทย์อาจต้องสังเกตภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด เช่น ทารกอาจเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ หรือหัวใจเต้นช้า
- ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตรในระหว่างใช้ยา เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ว่าตัวยาปนเปื้อนผ่านน้ำนมแม่และเป็นอันตรายต่อทารกหรือไม่
- แจ้งให้แพทย์ทราบว่าอยู่ในช่วงการรับประทานยา Nebivolol หากต้องเข้ารับการผ่าตัดร่างกาย รวมถึงช่องปาก เนื่องจากผู้ป่วยอาจต้องหยุดรับประทานยาก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- การใช้ยา Nebivolol อาจทำให้รู้สึกเวียนศีรษะ ง่วงซึม ผู้ป่วยจึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถ การทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความตื่นตัว รวมถึงการใช้เครื่องจักร และควรจำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้ยา
ปริมาณการใช้ยา Nebivolol
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยา Nebivolol ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยาดังนี้
รักษาความดันโลหิตสูง
ตัวอย่างการใช้ยา Nebivolol เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง
ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง และอาจมีการปรับปริมาณยาเพิ่มขึ้นตามอาการของผู้ป่วย โดยปริมาณสูงสุดไม่เกิน 40 มิลลิกรัม วันละครั้ง
ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เริ่มรับประทานยาปริมาณ 2.5 มิลลิกรัม วันละครั้ง และอาจมีการปรับประมาณยาขึ้นเป็น 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง หรือตามดุลยพินิจของแพทย์
รักษาโรคหัวใจ
ตัวอย่างการใช้ยา Nebivolol เพื่อรักษาโรคหัวใจวาย
ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 1.25 มิลลิกรัม วันละครั้ง จากนั้นอาจเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่าทุก ๆ 1–2 สัปดาห์ตามอาการของผู้ป่วย โดยปริมาณสูงสุดไม่เกิน 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง
การใช้ยา Nebivolol
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา Nebivolol ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ควรรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์หรือคำแนะนำบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยไม่ควรปรับปริมาณยาเอง หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
- ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพราะหากหยุดการใช้ยาอย่างกะทันหันอาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจได้
- สามารถรับประทานยานี้พร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้
- หากผู้ป่วยใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนดอาจทำให้อาเจียน เวียนศีรษะ รู้สึกวูบ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม หัวใจเต้นช้า และอาจมีปัญหาด้านการหายใจ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- หากผู้ป่วยลืมรับประทานยา ควรรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงช่วงเวลารับประทานยารอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยารอบต่อไปเพียงมื้อเดียว ทั้งนี้ ผู้ป่วยห้ามเพิ่มปริมาณการรับประทานยาเป็นสองเท่าเพื่อทดแทน
- เก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม โดยควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อนและแสงแดด และควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Nebivolol
โดยทั่วไป ยา Nebivolol อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ อาทิ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หัวใจเต้นช้า อ่อนเพลีย มีปัญหาด้านการนอนหลับ หรือขาบวม ซึ่งถ้าผู้ที่ใช้ยามีอาการแย่ลงหรือมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อรับการรักษา
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยทันที เช่น
- มีอาการแพ้ยา อาทิ มีผื่น คัน บวมในบริเวณใบหน้า ลิ้น และคอ เวียนหัวอย่างรุนแรงหรือหายใจลำบาก
- นิ้วมือหรือนิ้วเท้าเป็นสีม่วงคล้ำ
- ชาหรือเย็นที่มือหรือเท้า
- หมดสติ
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ใจสั่นหรือหน้ามืดเป็นลม
- เข่าหรือเท้าบวม
- อารมณ์แปรปรวน