เฟนเทอร์มีน
Phentermine (เฟนเทอร์มีน) เป็นยารักษาโรคอ้วนที่แพทย์อาจนำมาใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่นและจำเป็นต้องลดน้ำหนัก โดยจะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต รวมถึงลดความอยากอาหาร นอกจากนั้น ยังอาจนำมาใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์อีกด้วย
เกี่ยวกับยา Phentermine
กลุ่มยา | ยารักษาโรคอ้วน |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | ลดความอยากอาหารในระยะสั้นสำหรับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินระดับปานกลางถึงรุนแรง |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน |
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ |
Category X ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือในสตรีที่อาจตั้งครรภ์ เพราะจากการศึกษาในมนุษย์และสัตว์แสดงให้เห็นว่า ทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์มนุษย์และตัวอ่อนในครรภ์สัตว์
หรือพบหลักฐานยืนยันว่า เกิดความเสี่ยงที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ การใช้ยามีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติสูงกว่าประโยชน์ที่อาจได้รับอย่างชัดเจน |
คำเตือนของการใช้ยา Phentermine
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงยาและสารอื่น ๆ เพราะยาอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการแพ้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคลิ้นหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไต
- ผู้ป่วยต้อหิน ไทรอยด์เป็นพิษ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูงมากหรือควบคุมไม่ได้ ปัญหาทางด้านจิตใจหรืออารมณ์ มีประวัติการติดสารเสพติดมาก่อนไม่ควรใช้ยา Phentermine
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจต้องเข้าวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ โดยแพทย์อาจต้องปรับปริมาณยารักษาโรคเบาหวานในระหว่างที่ใช้ยานี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ เพราะยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยานี้จนก่อให้เกิดผลข้างเคียง หรือทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง
- ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยาลดน้ำหนักอื่น โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะหากใช้ร่วมกับยาบางชนิดอาจทำให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง
- ผู้ป่วยสูงอายุอาจมีความเสี่ยงต่ออาการเวียนศีรษะและความดันโลหิตสูงเพิ่มมากขึ้น
- ห้ามใช้ยานี้ หากผู้ป่วยเคยใช้ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอ เช่น ยาเซเลกิลีน ยาลีเนโซลิด เป็นต้น ในช่วง 14 วัน ก่อนหน้า เพราอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงต่อกันได้
- หลีกเลี่ยงการขับรถ การใช้เครื่องจักรหรือการทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตรายในระหว่างที่ใช้ยา จนกว่าจะแน่ใจว่ายาไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เนื่องจากยานี้อาจทำให้การตอบสนองของร่างกายผู้ป่วยด้อยประสิทธิภาพลง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้
- ผู้ป่วยที่กำลังตั้งครรภ์และผู้ที่กำลังในนมบุตรห้ามรับประทานยานี้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ และหากผู้ป่วยตั้งครรภ์ในระหว่างการใช้ยาก็ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- ห้ามใช้ยา Phentermine ในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี
ปริมาณการใช้ยา Phentermine
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้
ลดความอยากอาหารในระยะสั้นสำหรับผู้ป่วยภาวะอ้วนที่มีอาการในระดับปานกลางถึงรุนแรง
ตัวอย่างการใช้ยา Phentermine เพื่อลดความอยากอาหารในระยะสั้นสำหรับผู้ป่วยภาวะอ้วน ที่มีอาการในระดับปานกลางถึงรุนแรง
ผู้ใหญ่ อาจใช้ยาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งต่อไปนี้
รับประทานยา Phentermine HCI ปริมาณ 15-37.5 มิลลิกรัม วันละครั้งในตอนเช้า หากรับประทานยาที่มีปริมาณสูงถึง 37.5 มิลลิกรัม อาจแบ่งรับประทานเป็นวันละ 2 ครั้ง โดยรับประทานยาปริมาณต่ำสุดที่เห็นผลในการรักษา
รับประทานยา Phentermine ประเภท Modified-release ion-exchange resin ปริมาณ 15 มิลลิกรัม วันละครั้ง 1 ครั้งหรือ 2 ครั้ง และปริมาณ 30 มิลลิกรัม วันละครั้งในตอนเช้า
การใช้ยา Phentermine
ยาเฟนเทอร์มีนมีวิธีการใช้ที่ควรปฏิบัติตาม ดังนี้
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
- ห้ามเริ่มใช้ยา หยุดใช้ยา หรือเปลี่ยนปริมาณการใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่าหรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
- ยานี้นำมาใช้รักษาโรคอ้วนในระยะสั้นเท่านั้น ประสิทธิภาพของยาในการลดความอยากอาหารจึงอาจลดลงหลังผ่านไป 2-3 สัปดาห์
- ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้อาจเกิดการเสพติด ซึ่งการรับประทานอย่างผิดวิธีก่อให้เกิดการติดยา รับประทานยาเกินปริมาณ หรือเสียชีวิตได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบ หากผู้ป่วยรับประทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือน้ำหนักตัวไม่ลดลง
- ห้ามหยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหัน เพราะอาจก่อให้เกิดอาการถอนยา หากต้องการหยุดใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
- หากผู้ป่วยลืมใช้ยา ให้ใช้ทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงช่วงเวลาของยารอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยาตามเวลาปกติ โดยห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
- หากผู้ป่วยใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนดควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจทำให้เกิดอาการ เช่น สับสน วิตกกังวล ประสาทหลอน กระสับกระส่ายอย่างมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดเกร็งหน้าท้อง รู้สึกเหนื่อยหรือซึมเศร้า หัวใจเต้นผิดปกติ ชีพจรเต้นอ่อน ชัก หายใจช้า เป็นต้น
- เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด โดยเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง รวมถึงปรึกษาวิธีการเก็บรักษาและการกำจัดยาที่ถูกต้องจากแพทย์และเภสัชกร
ผลข้างเคียงของการใช้ยา Phentermine
โดยทั่วไปยา Phentermine มักทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คัน เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ปากแห้ง ลิ้นเปลี่ยนรส นอนไม่หลับ หงุดหงิด คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ปวดท้อง มีความต้องการทางเพศลดลงหรือมากขึ้น เป็นต้น หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือมีอาการแย่ลงก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที หากเกิดอาการอื่น ๆ ที่รุนแรงดังต่อไปนี้
- มีอาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก อาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้นและคอ เป็นต้น
- หายใจหอบเหนื่อย แม้จะทำกิจกรรมที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย
- เจ็บหน้าอก รู้สึกเหมือนจะเป็นลมหมดสติ
- เท้าหรือข้อเท้าบวม
- รู้สึกใจสั่น หัวใจเต้นแรง หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
- อยู่ไม่สุข ระสับกระส่าย มีปัญหาในการนอนหลับ
- มีพฤติกรรมหรืออารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
- มีความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เกิดอาการ เช่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง มองเห็นเป็นภาพเบลอ รู้สึกถึงการเต้นของชีพจรบริเวณคอและหู เลือดกำเดาไหล เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางคนอาจไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่หากผู้ป่วยรายใดพบผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ควรรีบแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที