ความหมาย เอ็นร้อยหวายอักเสบ
เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendinitis) เป็นการอักเสบบริเวณเอ็นร้อยหวายที่เป็นเอ็นเชื่อมต่อจากกล้ามเนื้อน่องไปจนถึงกระดูกส้นเท้า โดยมักเกิดจากการเล่นกีฬาหรือการใช้งานเอ็นร้อยหวายอย่างหนักซ้ำ ๆ เช่น วิ่ง หรือกระโดด เป็นต้น โดยเกิดขึ้นได้บ่อยกับผู้ที่เล่นกีฬา หากอาการไม่รุนแรงก็สามารถรักษาได้เองที่บ้าน หรือบางกรณีก็อาจต้องไปพบแพทย์
อาการของเอ็นร้อยหวายอักเสบ
อาการทั่วไปของเอ็นร้อนหวายอักเสบที่พบได้บ่อย คือ
- ปวดและบวมบริเวณเหนือส้นเท้า ในขณะเดิน เล่นกีฬา หรือเมื่อยืดข้อเท้า
- มีอาการปวดอย่างรุนแรงหลังออกกำลังกาย
- มีอาการบวมที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และหากทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
- รู้สึกแน่นบริเวณกล้ามเนื้อน่อง
- เมื่องอเท้าจะรู้สึกเคลื่อนไหวไม่ค่อยได้
- รู้สึกอุ่นบริเวณส้นเท้า
หากผู้ป่วยมีอาการดังข้างต้นอย่างเรื้อรังหรือรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้ก็อาจทำให้เส้นเอ็นฉีกและมีอาการแย่ลงได้
สาเหตุของเอ็นร้อยหวายอักเสบ
เอ็นร้อยหวายอักเสบเกิดจากการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ หรือใช้งานเอ็นร้อยหวายมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการตึงและบาดเจ็บ โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุ ดังนี้
การออกกำลังกายและการเล่นกีฬา เป็นปัจจัยที่พบได้บ่อยกว่าสาเหตุอื่น ๆ เช่น
- เคลื่อนไหวร่างกายอย่างฉับพลัน หรือขาดการยืดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมก่อนออกกำลังกาย
- เล่นกีฬาชนิดที่ต้องหยุดเคลื่อนไหวหรือหมุนอย่างกะทันหัน เช่น เทนนิส บาสเกตบอล เป็นต้น
- ออกกำลังกายในท่าเดิมซ้ำ ๆ หรือเคลื่อนไหวร่างกายจนทำให้กล้ามเนื้อน่องหรือเส้นเอ็นตึงเกินไป
สาเหตุอื่น ๆ
- สวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสม ไม่พอดีกับเท้า
- สวมรองเท้าส้นสูงเป็นประจำ หรือสวมติดต่อกันเป็นเวลานาน
- มีอายุเพิ่มมากขึ้น เพราะอาจทำให้เอ็นร้อยหวายเสื่อมลงไปตามกาลเวลา
- มีภาวะเท้าแบน ซึ่งส่งผลให้การรับน้ำหนักของเท้าผิดปกติ เนื่องจากความโค้งของอุ้งเท้ามีน้อยหรือไม่มีเลย และอาจทำให้กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นตึงเมื่อเคลื่อนไหว
- มีหินปูนเกาะอยู่หลังส้นเท้า
- รับประทานยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน หรือยากลูโคคอร์ติคอยด์
การวินิจฉัยเอ็นร้อยหวายอักเสบ
แพทย์จะสอบถามผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการปวดบวมบริเวณส้นเท้าหรือน่อง โดยมีการทดสอบ เช่น ให้ผู้ป่วยลองยืนบนลูกบอล ให้งอเข่าบนเก้าอี้โดยให้ปลายเท้าพ้นจากขอบเก้าอี้ หรือนอนคว่ำบนเตียงตรวจร่วมกับเหยียดขา จากนั้นแพทย์จะบีบบริเวณกล้ามเนื้อน่อง หากมีอาการเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ผู้ป่วยจะไม่สามารถขยับเท้าได้ เป็นต้น ซึ่งการวินิจฉัยดังกล่าวสามารถประเมินการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นของเท้าหรือข้อเท้าของผู้ป่วยได้
ทั้งนี้ แพทย์อาจใช้วิธีอื่นเพื่อช่วยตรวจวินิจฉัยร่วมด้วย เช่น
- การเอกซเรย์ (X-Ray) ช่วยให้เห็นภาพเท้าและกระดูกขา แต่ไม่สามารถมองเห็นเนื้อเยื่ออ่อนได้
- การสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอ็มอาร์ไอ (MRI Scan) เป็นการใช้คลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อตรวจดูความผิดปกติของเอ็นร้อยหวาย โดยช่วยให้แพทย์เห็นภาพการฉีกขาด การเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อ และรายละเอียดของเส้นเอ็นมากขึ้น
- อัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นการใช้คลื่นเสียงตรวจเพื่อแสดงภาพเนื้อเยื่ออ่อนภายในร่างกาย โดยทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็น ความเสียหาย และการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้แพทย์ประเมินการไหลเวียนของเลือดได้
การรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ
การรักษาอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบนั้นมีหลายวิธี โดยทั่วไปผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่หากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
การรักษาเบื้องต้น ผู้ป่วยที่มีอาการเพียงเล็กน้อยและเกิดจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง อาจบรรเทาอาการได้ด้วยการปฏิบัติตามหลัก RICE เพื่อช่วยลดอาการปวดบวมในเบื้องต้น ดังนี้
- Rest คือ การพัก โดยควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ก่อให้เกิดแรงต่อเส้นเอ็น และไม่ควรกดบริเวณนั้นจนกว่าอาการจะดีขึ้น หากผู้ป่วยสามารถลดแรงตึงตัวของเส้นเอ็นได้ จะทำให้อาการหายดีอย่างรวดเร็ว
- Ice คือ การใช้น้ำแข็งประคบ อาจใช้ถุงน้ำแข็งประคบบริเวณเส้นเอ็นที่อักเสบประมาณ 15-20 นาที โดยน้ำแข็งจะทำให้อาการบาดเจ็บและอาการบวมดีขึ้น
- Compression คือ การรัดด้วยผ้าพันแผล โดยรัดบริเวณเส้นเอ็นเพื่อลดอาการบวมและการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็นบริเวณนั้น แต่ไม่ควรรัดผ้าพันแผลแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
- Elevation คือ การยกเท้าเหนือบริเวณหน้าอก โดยอาจนอนราบบนพื้นแล้วนำหมอนมาหนุนเท้า ซึ่งจะสามารถทำให้เลือดไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจและลดอาการบวมได้
อย่างไรก็ตาม หากดูแลตนเองในเบื้องต้นแล้วอาการไม่ทุเลาลงหรือทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ผู้ป่วยอาจต้องไปพบแพทย์ ซึ่งอาจต้องใช้วิธีอื่น ๆ ในการรักษาร่วมด้วย ดังนี้
การรักษาด้วยยา หากอาการของผู้ป่วยไม่ดีขึ้นหลังจากการกินยา เช่น ยาไอบูโปรเฟน หรือยาในกลุ่มเอ็นเซด (NSAID) เป็นต้น แพทย์อาจให้ยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยลดอาการปวดและการบาดเจ็บ
การทำกายภาพบำบัด เป็นวิธีบำบัดรักษาด้วยใช้การออกกำลังกายหรือใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของเอ็นร้อยหวายที่อักเสบ เช่น การออกกำลังกายแบบเอกเซนตริก (Eccentric) ซึ่งเป็นการออกกำลังกายเกี่ยวกับการหดตัวของกล้ามเนื้อ อย่างการเกร็งขณะผ่อนแรงยกน้ำหนักจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นถูกยืดออก หรือการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยเสริมการทำหน้าที่ของเส้นเอ็น อย่างการใส่อุปกรณ์ในรองเท้าหรือบริเวณส้นเท้า เป็นต้น
การผ่าตัด เมื่อผู้ป่วยรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือเสี่ยงต่อการเกิดเอ็นฉีกขาด แพทย์อาจต้องผ่าตัดเพื่อรักษาเอ็นร้อยหวายบริเวณดังกล่าว
ภาวะแทรกซ้อนจากเอ็นร้อยหวายอักเสบ
เอ็นร้อยหวายอักเสบอาจทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการเดิน การออกกำลังกาย เส้นเอ็นและกระดูกข้อเท้าอาจใช้งานไม่ได้ หรือหากมีอาการรุนแรงอย่างเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ หลังการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายด้วย เช่น ภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ หรือภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน เป็นต้น
การป้องกันเอ็นร้อยหวายอักเสบ
อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบอาจยังไม่มีการป้องกันที่แน่ชัด แต่อาจลดความเสี่ยงได้ด้วยการปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้
- ยืดเหยียดร่างกายในตอนเช้าทุกวัน เพื่อยืดกล้ามเนื้อน่องและเอ็นร้อยหวาย โดยอาจทำก่อนหรือหลังออกกำลังกายก็ได้ และควรอบอุ่นร่างกายหรือยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายเสมอ
- ไม่หักโหมออกกำลังกายอย่างหนักเกินไป หรือหากมีอาการปวดระหว่างที่ออกกำลังกายก็ควรหยุดพัก
- ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อส่วนน่อง เพื่อเพิ่มความเเข็งแรง ลดความตึงเครียดของเอ็นร้อยหวาย และช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้ดีขึ้น
- เล่นกีฬาหลาย ๆ ชนิดสลับกันไป เพื่อลดความตึงเครียดและแรงกระทบบริเวณเส้นเอ็น
- เลือกรองเท้าให้เหมาะสมและรองรับอุ้งเท้าได้ดี ส่วนผู้ที่ใส่ส้นสูงอาจค่อย ๆ ลดระดับความสูงของส้นทีละน้อย และไม่ควรใช้รองเท้าคู่เดิมนานเกินไป