แมกนีเซียม (Magnesium)
แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการทำงานของร่างกายอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท กระเพาะอาหารและลำไส้ โดยนำมารักษาและป้องกันภาวะขาดแมกนีเซียม ภาวะแมกนีเซียมในร่างกายต่ำ หรือป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขาดแมกนีเซียม เช่น โรคกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย
การใช้ Magnesium มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาชนิดนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ
เกี่ยวกับ Magnesium
กลุ่มยา | แร่ธาตุ |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | รักษาอาการจากภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ และใช้เสริมระดับแมกนีเซียมในร่างกาย |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ เด็ก |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน |
คำเตือนในการใช้ Magnesium
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ Magnesium หากมีประวัติการแพ้ใด ๆ หรือเป็นโรคไต เพราะโดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถใช้ยาได้ หรือบางรายอาจต้องปรับปริมาณการใช้ยาหรือตรวจร่างกายระหว่างที่ใช้ยา
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้ เพราะมียาบางชนิดที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้ เช่น ยากรดนาลิดิซิก ยารักษาโรคกระดูกพรุน ยาเพนิซิลลามีน ยาปฏิชีวนะอย่างยาเตตราไซคลีน ยาปฏิชีวนะฟลูออโรควิโนโลนอย่างยาไซโปรฟลอกซาซิน เป็นต้น
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ วางแผนมีบุตร หรือกำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของยาก่อนใช้เสมอ และห้ามใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายาจะเป็นอันตรายต่อทารกหรือไม่
ปริมาณการใช้ Magnesium
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้
รักษาอาการจากภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ
ผู้ใหญ่ รับประทานปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
เด็ก รับประทานปริมาณ 10-20 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 4 ครั้ง
เสริมระดับแมกนีเซียมในร่างกาย
ผู้ใหญ่ รับประทานปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
การใช้ Magnesium
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยาในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
- รับประทาน Magnesium พร้อมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว โดยให้รับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที เพื่อให้ยาสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลข้างเคียงอย่างอาการท้องเสีย
- การใช้ Magnesium ชนิดสารละลาย ให้ใช้ช้อนยาหรือถ้วยสำหรับตวงยาโดยเฉพาะ
- หากลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด ให้ใช้ยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาของยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยารอบต่อไป และห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
- หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที ซึ่งอาจทำให้มีอาการบางอย่าง เช่น ผิวหนังแดง ง่วงซึมมาก สับสน วิงเวียน หน้ามืด กล้ามเนื้ออ่อนแรง และหัวใจเต้นช้า เป็นต้น
- เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Magnesium
การใช้ Magnesium อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง แต่อาจพบได้น้อย เช่น ปวดท้อง ท้องอืด และท้องเสีย เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์
หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ Magnesium ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม และคอบวม เป็นต้น
- คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน หน้ามืด
- หัวใจเต้นช้า หรือหัวใจเต้นเร็ว
- รู้สึกอุ่น คล้ายเข็มทิ่ม หรือมีอาการแดงบริเวณผิวหนัง