10 สาเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวสีน้ำตาล

ตกขาวสีน้ำตาล เป็นอาการที่ตกขาวมีคราบสีน้ำตาลปนออกมาด้วย โดยอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ภาวะปกติอย่างเลือดประจำเดือน ไปจนปัญหาทางสุขภาพบางอย่างที่อันตรายต่อร่างกาย

ตกขาว เป็นของเหลวที่ร่างผลิตขึ้นมาตามกลไกธรรมชาติเพื่อรักษาความสะอาดและป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ บริเวณช่องคลอด โดยสีของตกขาวสีของตกขาวที่ปกติควรจะเป็นสีที่ขาวหรือใส และไม่ส่งกลิ่นเหม็นหรือมีกลิ่นเพียงเล็กน้อย

10 สาเหตุของตกขาวสีน้ำตาล

10 สาเหตุของอาการตกขาวสีน้ำตาล

ตกขาวสีน้ำตาลเป็นอาการที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

1. การติดเชื้อ

การติดเชื้อบริเวณช่องคลอดหรือปากมดลูกอาจส่งผลให้มีเลือดออกปนมากับตกขาวได้ โดยโรคที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็เช่น ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis) หนองในเทียม (Chlamydia) หรือหนองในแท้ (Gonorrhea)

ผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะมักอาการอื่นนอกจากตกขาวสีน้ำตาลร่วมด้วย เช่น รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ ปวดกระดูกเชิงกราน และตกขาวมีกลิ่นเหม็นหรืออาจมีสีอื่น ๆ ร่วมด้วย

2. การตกไข่

ในช่วงไข่ตกหรือช่วงที่รังไข่ปล่อยไข่ออกมา เป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้น และจะลดลงอย่างมากตามมา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเลือดออกได้ โดยผู้ที่อยู่ในช่วงไข่ตกจะมักพบอาการปวดท้องด้านล่าง และมีตกขาวมาก

3. ประจำเดือน

ตกขาวสีนน้ำตาลอาจเป็นผลมาจากเลือดที่ออกมาในช่วงที่มีประจำเดือน ซึ่งสาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงต้นและปลายของรอบเดือน

4. เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleeding)

การมีตกขาวสีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ หรือเลือดล้างหน้าเด็กได้ เนื่องจากในช่วง 7–14 วันแรกหลังจากการที่ไข่ผสมกับอสุจินั้นตัวอ่อนจะไปฝังตัวที่มดลูก ซึ่งอาจส่งผลให้หลอดเลือดบางบริเวณเกิดการแตกออกและปนมากับตกขาวได้บ้าง

5. ท้องนอกมดลูก

เลือดที่ออกในบริเวณนี้อาจปนออกมากับตกขาวจนเกิดเป็นตกขาวสีน้ำตาลได้ ซึ่งสาเหตุนี้พบได้ค่อนข้างบ่อย โดยถือเป็นสาเหตุที่ไม่รุนแรง เนื่องจากอวัยวะบริเวณนี้เป็นอวัยวะที่บอบบางและอาจมีเลือดได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีการมีเลือดออกในบริเวณนี้ก็อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพบางอย่างได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ที่พบอาการตกขาวสีน้ำตาลบ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อพบอาการปวดร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่เหมาะสม

6. แท้ง

ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ การมีเลือดออกทางช่องคลอด โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก–20 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ อาจเป็นสัญญาณของการแท้งได้ อย่างไรก็ตาม การมีเลือดออกในช่วงนี้ก็อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอย่างอื่นได้เช่นกัน

7. ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta Previa)

รกเกาะต่ำ หรือภาวะที่รกปิดขวางหรือคลุมปากมดลูก ซึ่งอาจคลุมเพียงบางส่วนหรือปกคลุมทั้งหมด ส่งผลให้คุณแม่อาจพบว่ามีเลือดออกมากในขณะตั้งครรภ์ ขณะทำคลอด หรือแม้แต่หลังจากคลอดไปแล้ว โดยผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะพบอาการหลัก ๆ คือ มีเลือดออกทางช่องคลอด ในช่วงหลัง 20 สัปดาห์หลังการตั้งครรภ์

ทั้งนี้ นอกจาก 10 สาเหตุดังกล่าว ตกขาวสีน้ำตาลอาจมีสาเหตุมาจากโรคหรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น ภาวะท้องนอกมดลูก (Ectopic Pregnancy) ครรภ์ไข่ปลาอุก (Molar Pregnancy) การคลอดก่อนกำหนด ไปจนถึงมะเร็งบางชนิด

8. การใช้ยาคุมกำเนิดชนิดที่ใช้ฮอร์โมน

ยาคุมกำเนิดชนิดที่ใช้ฮอร์โมนอาจส่งผลให้ผู้ที่ใช้มีเลือดออกได้บ้างในช่วงเดือนแรกที่ใช้ยา แต่ร่างกายมักปรับตัวและหายได้เอง แต่ผู้ที่พบว่าอาการตกขาวสีน้ำตาลหรืออาการมีเลือดออกไม่ดีขึ้นและหายไปใน 3 เดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและปรับเปลี่ยนยาคุมกำเนิดตามดุลยพินิจของแพทย์

9. วัยทอง

วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน เป็นภาวะที่ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในร่างกายลดน้อยลง จนผิวบริเวณผนังช่องคลอดเริ่มบางลง รวมถึงหลอดเลือดยังเกิดการหดตัว ผู้ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทองจึงเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกบริเวณช่องคลอดและปนมากับตกขาวได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทองและพบอาการตกขาวสีน้ำตาลควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่แน่ชัด เนื่องจากยังมีกรณีอื่น ๆ อีกเช่นกันที่เลือดซึ่งออกมานั้นอาจมาจากบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ผนังช่องคลอด หรืออาจเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติอื่น

10. มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer)

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่เกิดบริเวณปากมดลูกส่วนที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างช่องคลอดกับมดลูก โดยผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักพบอาการอื่นนอกจากตกขาวสีน้ำตาล เช่น ปวดกระดูกเชิงกราน มีเลือดออกที่ส่งกลิ่นเหม็นจากช่องคลอดในปริมาณมาก หรือมีเลือดออกจากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงที่มีประจำเดือน และหลังจากเข้าสู่วัยทองไปแล้ว

อาการแบบไหนที่ควรพบแพทย์

แม้สาเหตุบางอย่างของอาการตกขาวสีน้ำตาลอาจจะไม่ใช่สาเหตุที่รุนแรง แต่ผู้ที่มีอาการนี้ก็ควรหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่พบอาการดังต่อไปนี้

  • มีเลือดไหลปนมากับตกขาวบ่อย ๆ 
  • มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดในปริมาณมาก
  • เริ่มพบว่าตกขาวมีกลิ่นเหม็นหรือสีที่ผิดแปลกไปจากปกติ

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีตกขาวสีน้ำตาลควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากเริ่มพบอาการที่มีความรุนแรง เช่น
มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดบ่อยหลังจากเข้าสู่ช่วงวัยทองแล้ว

  • ตกขาวมีสีเขียวหรือเหลืองร่วมกับส่งกลิ่นเหม็น 
  • ปวดไหล่
  • ปวดอุ้งเชิงกราน 
  • คลื่นไส้รุนแรง 
  • อาเจียนรุนแรง
  • น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ