เป็นเชื้อราบนหนังศรีษะ หมอให้ยามาทาน แต่เวลาเหงื่อออก จะคันรุนเเรงมาก ควรกลับไปหาหมอไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Mok Mok,

                     อาการคันที่หนังศีรษะ อาจเกิดจาก

                    1. การติดเชื้อราบนหนังศีรษะ (tinea capitis) หรือโรคกลาก โดยจะมีอาการคันมาก และอาจทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมได้

                    2. การแพ้สารเคมีต่างๆ เช่น ยาสระผม ครีมนวดผม สเปรย์ เจลแต่งทรงผม เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันและมีรังแคมากได้

                    3. โรคผิวหนังอักเสบ seborrheic dermatitis ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันและมีรังแค แต่นอกจากจะเป็นที่หนังศีรษะแล้ว มักพบที่คิ้ว ขาหนีบ รักแร้ หรือบริเวณข้างจมูก โดยผิวหนังบริเวณที่เป็น จะมีความมัน สีแดง และเป็นสะเก็ด 

                    4. โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดอาการคันและผิวหนังตกสะเก็ด เกิดได้กับผิวหนังทั่งตัว รวมถึงที่ศีรษะ เล็บนิ้วมือและนิ้วเท้า

                      หากทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อรามาต่อเนื่องมา 1-2 เดือนแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำควรกลับไปพบแพทย์ โดยควรเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่นอนว่าเกิดจากเชื้อราหรือไม่ ซึ่งแพทย์อาจขูดหนังศีรษะหรือเอาชิ้นเนื้อเล็กๆ ไปตรวจเพิ่มเติมค่ะ หากเป็นการติดเชื้อรา แสดงว่าเชื้ออาจไม่ตอบสนองต่อยาที่ทาน อาจต้องมีการเปลี่ยนชนิดยาต่อไปค่ะ ในระหว่างนี้ ก็ควรงดการใช้สารเคมีต่างๆ ที่หนังศีรษะและผม คือไม่ควรใส่เจลหรือสเปรย์แต่งผม ไม่ทำสีผม ใช้แชมพูและครีมนวดที่เป็นสูตรอ่อนโยน เป็นต้น