ถามแพทย์

  • เลิกกับแฟน แต่ยังโทรคุยกัน จนหลังวันที่ 19 ส.ค. ได้เลิกติดต่อ แล้วมีอาการผิดปกติต่างๆ เป็นโรคซึมเศร้าไหม

  •  แด' จังกึม
    สมาชิก
    ดิฉันได้เลิกกับเเฟนมาเเล้ว 7 เดือน เเต่1-6 เดือนได้โทรคุย ได้ระบายอะไรต่างๆหลายๆอย่างๆสิ่งให้กันฟัง พอวันที่ 19 ส.ค ดิฉันก็ได้เลิกต่อติดกันจนถึงวันนี้ ดิฉันรู้สึกว่าตั้งเเต่ไม่ได้คุยกัน นอนไม่หลับ ใจคอไม่ดี กินข้าวไม่ลง ใจหวิวๆตลอดเวลา กลางคืนจะฟุ้งซ่านคิดถึงเขาตลอด อยากร้องไห้ ดิฉันอยากจะถามว่าดิฉันเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าไหม

    สวัสดีค่ะ คุณ แด' จังกึม,

                         อาการนอนไม่ค่อยหลับ ใจคอไม่ดี กินข้าวไม่ลง ใจหวิวๆ อยากร้องไห้ ถือว่ามีภาวะอารมณ์ซึมเศร้า ซึ่งสามารถพบได้เป็นปกติธรรมดา หากมีเหตุการณ์ที่เป็นต้นเหตุให้เกิด โดยมักจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราว แล้วค่อยๆ ดีขึ้นไปได้เอง ดังนั้น หากอาการผิดปกติต่างๆ เพิ่งเกิดหลังจากวันที่ 19 ส.ค. จากเหตุการณ์ที่ได้เลิกติดต่อกับแฟน ก็อาจเป็นเพียงภาวะอารณ์ซึมเศร้าโดยทั่วไปได้ แต่หากอาการดังกล่าวเป็นต่อเนื่องนาน ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น และส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ก็ถือเป็นโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งเป็นโรคที่ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้แก่ ความรู้สึกหมดหวัง ไร้ค่า หมดความสนใจในสิ่งที่ตนเองเคยสนใจ หมดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่างๆ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดได้นาน เก็บตัว ไม่ต้องการออกไปพบปะผู้อื่นอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง อยากนอนตลอดเวลา หรือมีปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท เป็นต้น มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป เช่น ทานอาหารมากเกินไป หรือเบื่ออาหาร มีน้ำหนักลด ปวดหัว ท้องผูก หมกมุ่นกับเรื่องความตาย หรือคิดฆ่าตัวตาย เป็นต้น

                        ดังนั้น หากอาการเป็นต่อเนื่องอยู่นาน ไม่มแนวโน้มดีขึ้น แต่กลับรุนแรงขึ้น แนะนำควรไปปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการซึมเศร้าที่เป็นอยู่ ซึ่งในขั้นต้น แพทย์อาจสาเหตุของโรคทางกายด้วย ว่ามีอยู่หรือไม่ เพราะโรคซึมเศร้า อาจมีสาเหตุมาจากโรคทางกายได้ เช่น มีภาวะไทรอยด์ต่ำ ขาดวิตามินบางอย่าง เนื้องอกในสมอง สมองอักเสบ เป็นต้น หากไม่ได้มีโรคอะไร การรักษา ก็มีทั้งการใช้ยา และการรักษาทางจิตบำบัดค่ะ การเป็นโรคซึมเศร้า ก็เหมือนกับการเป็นโรคอื่นๆ หากได้รับการรักษาที่ถูกวิธี โรคก็จะทุเลาลง อารมณ์ความรู้สึกผิดปกติต่างๆ ก็จะหายเป็นปกติได้ในที่สุดค่ะ

                         นอกจากนี้แล้ว แนะนำควรเล่าให้คนในครอบครัวหรือคนสนิทใกล้ชิดฟังถึงอาการที่เราเป็นอยู่ เพื่อจะได้รับรู้ถึงความผิดปกติของเรา จะได้มีคนเข้าใจเมื่อเราเกิดอาการผิดปกติขึ้นมาอีกค่ะ