-
ตับอักเสบแต่ไม่ใช่จากไวรัส แพทย์ให้ยาลดไขมันมากิน ถ้าจะควบคุมไขมันแทนการกินยาได้หรือไม่
-
Nov 05, 2020 at 10:29 AM
สวัสดีค่ะมีเรื่องรบกวนคุณหมอค่ะ
สามีอายุ 44 ปีหนัก 53 สูง 166 ไม่ทานเหล้าไม่สูบบุหรี่ ตรวจพบอาการตับอักเสบแต่ไม่มีไวรัสเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ค่าตับดังนี้ค่ะ
เดือน 8 2017 ค่าตับ 38/86
เดือน 9 2017 ค่าตับ 25/54
เดือน 1 2018 ค่าตับ 34/68
เดือน 4 2018 ค่าตับ 84/208 ***สูงสุด
เดือน 5 2018 ค่าตับ 33/74
เดือน 6 2018 ค่าตับ 70/167
เดือน 7 2018 ค่าตับ 23/42
เดือน 9 2018 ค่าตับ 26/53
เดือน 11 2018 ค่าตับ 26/53
เดือน 2 2019 ค่าตับ 56/71
เดือน 5 2019 ค่าตับ 25/45
เดือน 6 2019 ค่าตับ 32/47
เดือน 8 2019 ค่าตับ 31/55
เดือน 1 2020 ค่าตับ 23/42
เดือน 6 2020 ค่าตับ 30/42
ปัจจุบัน 11 2020 ค่าตับ 49/85
ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ ว่าทำมั๊ยค่าตับกลับมาสูงอีกแล้ว ทั้งๆที่หายอักเสบมาปีกว่าๆ
ตอนนี้หมอให้ทานยาลดไขมันโรซูวาส 10 mg.ต่อเนื่องมาปีกว่าๆเนื่องจากค่าไขมันเกินเฉลี่ยประมาณ 230-250
และปัจจุบันให้ทานวิตตามินอีเพิ่มวันละ 2 เม็ด (ก่อนหน้านี้เคยให้ทานวิตตามินอีแต่สั่งงดไปเมื่อค่าตับกลับมาปกติ)
อัลตร้าซาวด์ทุกๆ 6 เดือนผลปกติค่ะ
รบกวนคุณหมอช่วยวิเคราะห์อีกแรงนะคะ ตอนนี้เครียดมากค่ะ อยากถามคุณหมอเป็นข้อๆ นะคะ
1 ควรงดทานยาลดไขมันมั๊ยคะ แล้วควบคุมอาหารเอง
2 อาหารหวานมีผลต่อตับอักเสบมั๊ยค่ะเพราะช่วงสามเดือนนี้ทานชานมเกือบทุกวัน และตอนเย็นทานซีสเค๊กค่ะ
3 เคยอ่านเค้าบอกว่าถ้าทานโคเอนไซคิวเทนอาจจะช่วยได้ ถ้าหากจะซื้อกินจะมีผลเสียต่อตับมั๊ยค่ะ
4 สาเหตุของตับอักเสบมาจากอะไรคะ เพราะไม่มีไวรัส หรืออาจจะมาจากยาลดไขมันได้มั๊ยคะ
5 หากเราควบคุมอาหารอย่างเด็ดขาด และออกกำลังกายควบคู่ มีโอกาสจะค่าตับลดลงมั๊ยคะ
6 อาการตับอักเสบเป็นๆ หายๆ และเว้นระยะการอับเสบมาปีกว่าๆ แบบนี้เรียกว่าตับอักเสบเรื้อรังมั๊ยคะ แอบเครียดค่ะ
กราบขอบพระคุณคุณหมอค่ะ
Nov 05, 2020 at 11:21 AM
สวัสดีค่ะคุณ Natthika Beer
ตับอักเสบในกรณีดังกล่าวน่าจะเกิดจากการมีไขมันพอกตับ แพทย์จึงให้ยาลดไขมันมากินร่วมด้วย ในภาวะนี้จะเรียกว่ามีตับอักเสบเรื้อรังก็ได้เช่นกัน
แนะนำการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง เพราะน่าจะมีการตรวจระดับไขมันในเลือดติดต่อกันหลายครั้งแล้ว อาจจะพบว่าไม่สามารถควบคุมได้เองด้วยการควบคุมอาหาร จึงต้องมีการใช้ยาเข้ามาร่วมด้วยค่ะ
อาหารหวานนั้น มักจะมีความมันปนอยู่ด้วย และอาจทำให้มีไขมันมากขึ้น ไปพอกตับได้มากขึ้นอีก จึงควรหลีกเลี่ยง กินแต่อาหารจืดๆจะดีที่สุด
การใช้โคเอนไซม์คิวเทนดังกล่าวมานั้น ยังไม่ได้มีรายงานทางการแพทย์รับรองชัดเจนว่ารักษาภาวะไขมันพอกตับได้ แนะนำการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้นจะดีที่สุด และควรงดการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดการที่จะทำให้ตับอักเสบมากขึ้น หากยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอหรือบีควรรับด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ตับซึ่งจะทำให้ตับอักเสบมากขึ้นได้เช่นกัน
-
ถามแพทย์
-
ตับอักเสบแต่ไม่ใช่จากไวรัส แพทย์ให้ยาลดไขมันมากิน ถ้าจะควบคุมไขมันแทนการกินยาได้หรือไม่