ถามแพทย์

  • เจ็บตา ร้อนลูกตา ตาแดง ต้องทำอย่างไร

  •  Supawadee Buathet
    สมาชิก
    ตอนแรกตามันรู้สึกว่า เจ็บๆเหมือนมีอะไรเข้าตา ลองลืมตาในน้ำก็รู้สึกว่ามันเจ็บเหมือนมันไปอะไรไม่รู้คะอธิบายไม่ถูก แต่ตอนนี้รู้สึกร้อนลูกตามากค่ะ ตอนนี้มันลูกตาเริ่มเเดงแล้วค่ะ ต้องทำไงดีคะ จะใส่รูปแต่มันไม่มีให้ใส่อะคะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Supawadee Buathet,

                        อาการเจ็บตา ตาแดง รู้สึกตาร้อน อาจเกิดจาก

                     1. เยื่อบุตาอักเสบ (conjunctivitis) ซึ่งมักมีอาการเยื่อบุตาบวม ตาแดง คันตา เจ็บตา เคืองตา แสบตา โดยอาจเกิดจาก

                        - การติดเชื้อไวรัส เช่น adenovirus, picornavirus มักมีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย เช่น มีน้ำมูก คัดจมูก ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ เป็นต้น

                       - การติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายสายพันธ์ุ ทำให้เกิดอาการได้ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง มักไม่มีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย

                      - การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เชื้อรา ขนสัตว์ อาหารทะเล เป็นต้น อาจพบอาการน้ำมูกไหลร่วมด้วยได้ แต่มักมีอาการคันตาจะเป็นอาการเด่นมากกว่าอาการปวดหรือแสบตา และน้ำตามักจะใส ไม่มีขี้ตาที่มีลักษณะคล้ายหนองออกมา

                     2. การระคายเคืองจากสารเคมี เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ ฝุ่นละออง สบู่ แชมพู สเปรย์ คลอรีนในน้ำ เป็นต้น

                    3. กระจกตาเป็นแผล จากอุบัติเหตุ เช่น ไม้ทิ่มตา หรือจากการใส่คอนแทคเลนส์นานเกินไป หรือกระจกตาติดเชื้อโรคเริม

                   4. ตาแห้ง จากการใช้สายตาจ้องมือถือหรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน ร่างกายขาดน้ำ อากาศแห้ง โดนลมมากไป เป็นต้น

                   5. ต้อหิน หากเป็นต้อหินเฉียบพลัน จะมีอาการปวดตา ปวดหัว ตาแดง น้ำตาไหล ตามัว มองเห็นเป็นสีรุ้งรอบดวงไฟ  

                    6. ตากุ้งยิง เป็นการอักเสบติดเชื้อของต่อมในหนังตาที่อยู่บริเวณโคนขนตา อาการคือมีปวดและเจ็บตา เปลือกตาบวมแดง เคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล มีขี้ตามาก และจะมีตุ่มนูนบวมเล็ก ๆ คล้ายสิว หรือเป็นหัวหนอง อาจเกิดขึ้นที่เปลือกตาด้านนอกหรือด้านใน

                    ในเบื้องต้น ให้หลีกเลี่ยงขยี้ตา อาจหาผ้ามาปิดตาเพื่อป้องกันการเผลอเอามือขยี้ งดใส่คอนแทคเลนส์ งดการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตาหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจแพ้ตางๆ งดการการใช้สายตานานๆ เช่น มองคอมพิวเตอร์ มือถือ หลีกเลี่ยงการมองแสงจ้า เป็นต้น และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ