ถ่ายเป็นเลือดมา 2 ปี เดือนนี้ถ่ายแล้วเจ็บทวารหนักมาก เหน็บยา ทานยาแล้วก็ไม่ดีขึ้น เป็นมะเร็งไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Ekkarine Pengput,

                อาการถ่ายเป็นเลือดเป็นๆ หาย มา 2 ปี  อาจเกิดจาก

               1. ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโป่งพองออกของเส้นเลือดดำที่ทวารหนัก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

                - ริดสีดวงชนิดภายใน หากเป็นไม่มาก เราจะมองไม่เห็นเนื่องจากอยู่ในทวารหนัก อาการหลักคือมีเลือดสดไหลออกมาหลังถ่ายอุจจาระ หรือปนมากับอุจจาระ แต่หากเป็นมาก ก็จะเห็นหัวริดสีดวงยื่นออกมาที่รูทวารหนักเวลาที่เบ่งถ่ายและเห็นเป็นติ่งเนื้อได้ มักจะไม่มีอาการเจ็บหรือปวด 

                - ริดสีดวงชนิดภายนอก จะเห็นเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมากจากรูทวารหนักเมื่อมีอาการท้องผูกหรือท้องเสียเกิดขึ้น มักไม่ทำให้เกิดเลือดออกเหมือนริดสีดวงภายใน แต่จะทำให้มีอาการเจ็บ หรือปวด หากเกิดการเสียดสีหรือนั่งทับ หากเกิดลิ่มเลือดขึ้นในหลอดเลือดที่โป่งพอง จะทำให้ปวดและเจ็บมากได้

               2. แผลปริขอบทวารหนัก จะเกิดเมื่ออุจจาระแข็ง หรือเป็นก้อนใหญ่ ต้องออกแรงเบ่งมาก ก้อนอุจจาระอาจไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผล ซึ่งมักมีเลือดสีแดงสดติดออกมากับก้อนอุจจาระ โดยปริมาณเลือดมักไม่มาก อาจเพียงแค่ติดกระดาษที่ใช้เช็ดก้น และจะมีอาการปวดหรือเจ็บรูทวารหนักร่วมด้วย หากเป็นเรื้อรัง เยื่อบุผิวรอบๆ แผลที่ทวารหนักนี้จะหนาตัวขึ้น ทำให้มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อขึ้นมาได้ด้วย

                ดังนั้นอาการของคุณ Ekkarine Pengput ในช่วงแรกที่มีเฉพาะอาการถ่ายเป็นเลือด อาจเกิดจากเป็นริดสีดวงภายใน ต่อมาอาจเกิดริดสีดวงภายนอกร่วมด้วย ทำให้มีอาการปวดเจ็บรูทวารหนักมาก หรืออาจเกิดแผลปริขอบทวารหนักขึ้นมาก็ได้ 

              ในเบื้องต้น พยายามให้ก้อนอุจจาระนิ่มโดยการดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เน้นทานผักและผลไม้สด ลดปริมาณการทานเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยากและทำให้อุจจาระแข็ง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอออล์ ไม่กลั้นหรือเบ่งถ่ายอุจจาระ ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา

               หากอาการถ่ายเป็นเลือดยังคงเป็นอยู่หลายวัน และมีเลือดออกปริมาณมาก หรือมีอาการปวดรูทวารหนักมากจนถ่ายไม่ได้ หรือปวดท้องร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและรับการรักษาค่ะ

              สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการที่สำคัญ ได้แก่ การถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือเป็นมูกเลือด รู้สึกถ่ายไม่สุด ปวดท้องเรื้อรัง ก้อนอุจจาระเป็นลำเล็กๆ มีท้องเสียสลับกับท้องผูกเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (5% ใน 3 เดือน)

            นอกจากนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มักพบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป หรือหากพบในอายุน้อย มักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น เป็นมะเร็งชนิดอื่นๆ อยู่ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มาก มีติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น ดังนั้นหากไม่มีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว และไม่มีอาการต่างๆ ที่กล่าวไป โอกาสที่จะเป็นก็น้อยมากค่ะ