ทานยาต้าน HIV หลับไม่สนิท ฝันร้าย จะทานอาหารเสริมเพื่อให้นอนหลับสนิทได้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ novaso604,

                     ยาต้านไวรัส HIV นั้น อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ นอนไม่หลับ ฝันร้ายได้  นอกจากนี้ ก็จะมีปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องอืด มีผื่นขึ้นเล็กน้อย ซึ่งมักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน ดังนั้น หากเพิ่งทานยาต้านไวรัสมาไม่นาน แล้วมีอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย ก็น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาได้ แต่หากทานมานานแล้ว ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้ เช่น 

                 1. สาเหตุจากด้านร่างกาย เช่น มีอาการปวดจากโรคต่างๆ เช่น ปวดศีรษะไมเกรน ปวดท้องจากโรคต่างๆ เช่น กระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน หรือมีภาวะไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น

                 2. สาเหตุด้านจิตใจ มีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า 

                 3. สาเหตุจากปัจจัยภายนอก เช่น มีเสียงดังรบกวน แสงสว่างเกินไป เปลี่ยนสถานที่นอน การเดินทาง การออกกำลังกายมากเกินไป ทานคาเฟอีนมากเกินไป เป็นต้น

                  ในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร แนะนำให้ปรับปัจจัยภายนอกที่อาจรบกวนการนอน เช่น ควรทำให้ห้องนอนมืด โดยการปิดไฟก่อนนอน หากมีแสงสว่างลอดเข้ามาในห้อง ควรหาม่านทึบแสงหรือที่กั้นต่างๆ มาบังไว้ ปิดเสียงต่างๆ ที่อาจรบกวนการนอน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และควรงดเล่นอุปกรณ์มือถือ สมาร์ทโฟน เวลา 30 นาทีก่อนเข้านอน เพราะอุปกรณ์มือถือ สมาร์ทโฟน มีผลทำให้หลับยาก เพราะแสงสีฟ้าจากจอ ทำให้ร่างกายรับรู้ว่ายังไม่มืด และหลั่งสารเมลาโทนิน ทำให้หลับยาก และเราได้รับข้อมูลเข้ามาตลอดเวลา ทำให้สมองไม่ได้พักผ่อน และนอนหลับไม่ดี ไม่อ่านหนังสือหรือรับฟังข่าวสารต่างๆ ที่เครียดเกินไป พยายามเข้านอนให้ตรงเวลา เมื่อจะนอนแล้ว ให้หยุดคิดเรื่องที่เครียด กังวลใจ โดยอาจทำสมาธิ ฟังเพลงสบายๆ อ่านหนังสือธรรมะ สวดมนต์ตามแต่ละศาสนา นอกจากนี้ในระหว่างวัน ควรงดการดื่มชา กาแฟ โกโก้ และแอลกอฮอล์ ไม่ทานอาหารอิ่มเกินไปก่อนนอน ไม่ควรดื่มน้ำมากๆ หลังอาหารเย็น เพราะจะทำให้ตื่นมาปัสสาวะ และขัดจังหวะการนอน 

                หากยังคงมีอาการนอนไม่หลับต่อเนื่องนานหลายวัน แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อพิจารณาให้ยานอนหลับค่ะ ไม่ควรทานอาหารเสริมต่างๆ เอง เพราะอาจมีผลทำให้ตับทำงานหนักได้ เนื่องจากกำลังทานยาต้านไวรัสอยู่ จึงไม่ควรทานยาอื่นๆ เพิ่มโดยไม่จำเป็น แต่ทั้งนี้ หากต้องการทาน ก็ควรทานแค่ระยะเวลาสั้นๆ เช่น 1-2 สัปดาห์ และควรเลือกอาหารเสริมที่มีเลขผลิตภัณฑ์ที่รับรับอนุญาตจาก อย. และผลิตจากแหล่งที่เชื่อถือได้ค่ะ