ถามแพทย์

  • มีไข้มา 2 วัน ต่อมามีน้ำมูก เสมหะ เวียนหัว ไม่ได้กลิ่น ไม่รับรส เป็นรวม 6 วันแล้ว ควรไปตรวจโควิดไหม

  •  Supharak
    สมาชิก

    ตอนนี้หนูเป็นหวัดได้ 6 วันแล้วค่ะ แต่ว่าไข้หมดตั้งแต่วันที่ 2 ตอนนี้เหลือแค่น้ำมูกกับเสมหะ แต่ยังมีการปวดกล้าม เวียนหัว ทานอาหารไม่ได้ ไม่ได้รสไม่ได้กลิ่น รู้สึกหายใจไม่ทั่วปวด ไม่รู้เกี่ยวกับน้ำมูกไหม และก็มีอาการอยากจะอ้วกไม่สบายด้วยตัวเลยค่ะ คือหนูต้องทานยาอะไรหรือควรไปตรวจโควิดก่อนคะ แล้วถ้าไม่เป็นมียาไหนสามารถรักษาได้บ้าง เมื่อ 6 วันก่อนหนูตากฝนมาค่ะไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่พึ่งไปตรวจโควิดมาแต่ผลคือไม่มีเชื้อเลยไม่รู้จะยังไง

    สวัสดีค่ะ คุณ  Supharak,

                       อาการมีไข้ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ เวียนหัว ทานอาหารแล้วไม่รู้รส ไม่ได้กลิ่น หายใจไม่ทั่ว อยากอาเจียน อาจเกิดจาก

                      1.ไข้หวัดธรรมดา โดยปกติอาการจะไม่รุนแรง และมักหายได้เองใน 1 สัปดาห์ ในผู้ที่ทีภูมิต้านทานต่ำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม

                      2.ไข้หวัดใหญ่ อาการมักรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา แต่ส่วนใหญ่จะหายได้เองเช่นกันในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่อาจมีอาการอ่อนเพลียต่อเนื่องได้นานหลายสัปดาห์ ในบางรายโดยเฉพาะเด็กเล็ก คนสูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เป็นต้น

                        3. โรคโควิด 19 ซึ่งอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ สามารถเป็นอาการของโรคนี้ได้ ทั้งนี้ แม้คุณพ่อและคุณแม่จะตรวจไม่พบเชื้อ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่พบเชื้อด้วยค่ะ

                        ดังนั้น แนะนำว่าควรรีบไปตรวจหาการติดเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลก่อนค่ะ

                        ส่วนการดูแลตนเองในเบื้องต้น ได้แก่ การดื่มน้ำเปล่ามากๆ งดน้ำเย็นพักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการโดนลม โดนฝน และการอยู่ในที่ที่อากาศเย็น ทานยาบรรเทาตามอาการ เช่น ยาลดน้ำมูก  เช่น chlochlorpheniramine (CPM), loratadine (ลอราทาดีน) เป็นต้น ยาละลายเสมหะ เช่น  bromhexine, guaifenesin (ไกวเฟนิซิน) เป็นต้น เป็นต้น และควรป้องกันตนเอง ไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ไม่ว่าจะกำลังเป็นโรคอะไรอยู่ก็ตามค่ะ โดยการใส่หน้ากากตลอดเวลา หรือแยกตัวอยู่ห่างจากผู้อื่น ไม่ทานอาหารร่วมกับผู้อื่น นอนแยกห้อง แยกสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน เป็นต้น