ปวดตาข้างเดียว และตาพร่ามัว เป็นได้ 2 วันแล้ว จะต้องทำอย่างไร

สวัสดีค่ะคุณ Suwit Sakittaling

อาการปวดหัวและตาพร่ามัวอาจเกิดจาก

-ปวดหัวจากการใช้งาน คือปวดกล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆศีรษะ สัมพันธ์กับการใช้งานสายตา

-ปวดไมเกรน มักปวดข้างเดียว มีคลื่นไส้ ตาพร่า

-ปวดจากอาการในสมอง เช่นมีเนื้องอกในสมอง มักจะต้องปวดรุนแรง ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดมากตอนเช้าและมีอาเจียนพุ่ง

หรือเป็นโรคทางสายตาเช่นตาแห้ง มีแผลบริเวณดวงตา การบาดเจ็บบริเวณดวงตา กระจกตาถลอก หรือรอยแผลเป็นบนกระจกตา จอตาติดเชื้อ หรือโรคเส้นประสาทตาอักเสบ  เป็นต้น หรือเป็นโรคทางสมองที่มีเส้นเลือดตีบหรือแตกไปบางส่วนทำให้การมองเห็นผิดปกติ

หากมองภาพมัวมาก มองแสงกลางคืนไม่ถนัด ปวดตรงเบ้าตาชัดเจน แนะนำรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทางตาอย่างละเอียด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจเสียการมองเห็นไปได้ หรือถ้ามีอาการทางระบบประสาทอื่นๆร่วมด้วยเช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ปวดจนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ ก็ควรรีบไปเช่นกัน

การดูแลตัวเองเบื้องต้น พักผ่อน พักการใช้งานสายตา รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ พักการใช้งานสายตา