ถามแพทย์

  • หลังมีเพศสัมพันธ์ 1 สัปดาห์มีอาการปัสสาวะบ่อยมาก เกิดจากอะไร

  •  underline
    สมาชิก
    หลังมีเพศสัมพันธ์มาเกือบ1อาทิตย์ มีอาการปัสสาวะบ่อยมากค่ะ อยากทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรหรอคะ? จากยาคุมฉุกเฉินรึป่าวคะ?

    สวัสดีค่ะ คุณ underline,

                  อาการปัสสาวะบ่อย  อาจเกิดจาก

                 1.การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นอกจากอาการปัสสาวะบ่อยแล้ว มักจะมีอาการแสบและปวดขณะปัสสาวะร่วมด้วย อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะมีเลือดปน ซึ่งสาเหตุของเชื้อ แบ่งเป็น

                        - เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย 

                        - เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

                  2. การดื่มน้ำมากไป ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไป แต่ปริมาณของปัสสาวะมักจะมากตามด้วย 

                  3. การมีความเครียด วิตกกังวล ก็จะทำให้มีความรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้  

                  4. อุณหภูมิของอากาศที่เย็น ก็จะทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้

                  ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจเป็นได้ เช่น 

                 -  โรคเบาหวาน โรคเบาจืด มักมีอาการหิวน้ำบ่อยร่วมด้วย และปริมาณของปัสสาวะจะมากตามด้วย 

                 -  กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (overactive bladder) นอกจากปัสสาวะบ่อยครั้ง อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะเล็ดราดร่วมด้วย 

                  -  นิ่วหรือก้อนเนื้อในกระเพาะปัสสาวะ หรือเนื้องอกมดลูก และไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มเร็วขึ้น เลยทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ

                  ส่วนยาคุมฉุกเฉินนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุของอาการปัสสาวะบ่อยค่ะ

                  ในเบื้องต้น หากมีปริมาณปัสสาวะออกครั้งละไม่มาก แนะนำให้พยายามดื่มน้ำมากๆ ไปก่อน หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาตามสาเหตุค่ะ