มีตุ่มเล็กๆ เหมือนสิว เจ็บๆ พอบีบก็ไม่มีอะไรออกมา เป็นหลายวันแล้ว มันคืออะไร รักษายังไง

 สวัสดีค่ะ คุณ bb,

                  ตุ่มคล้ายสิวที่อัณฑะ อาจเป็น

               1.ต่อมไขมัน (fordyce spot) ที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังที่ไม่มีขน ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ลักษณะคือ เป็นเม็ดหรือตุ่มนูนสีขาว หรือเหลืองอ่อน พบได้ทั้งที่ผิวหนังของถุงอัณฑะหรือองคชาต ในอวัยวะเพศหญิงก็พบได้ รวมถึงที่กระพุ้งแก้มและริมฝีปาก อาจพบเม็ดเดียวหรือหลายเม็ด ไม่คันและไม่เจ็บ

              2. ก้อนเนื้องอกของชั้นผิวหนังหรือชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง 

              3.ก้อนเนื้องอก ซีสต์ หรือรอยโรคของลูกอัณฑะ ซึ่งดันออกมาเป็นก้อนให้เห็นที่หนังอัณฑะได้  เช่น หลอดเลือดดำของอัณฑะขอด (varicocele) ท่อพักอสุจิโป่งพอง (epididymal cyst) ถุงน้ำที่อัณฑะ (hydrocele)  

              4. ผื่นแพ้สัมผัส จากสารเคมีที่ไปสัมผัสโดนผิวหนังบริเวณนั้น เช่น แป้ง โลชั่น น้ำหอม เป็นต้น แต่มักจะมีอาการคันร่วมด้วย 

              5. หูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะคือจะเห็นเป็นติ่งเนื้อนุ่มๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวขรุขระ อาจพบจุดเดียวหรือหลายจุด มักพบขึ้นที่องคชาต แต่ก็อาจพบได้ที่ถุงอัณฑะ มักไม่มีอาการ แต่อาจทำให้เกิดอาการคัน แสบ หรือเจ็บได้ขณะมีเพศสัมพันธ์

              6. หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส molluscum contagiosum virus ซึ่งติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรคโดยตรง ดังนั้นจึงติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ สามารถพบได้ที่ผิวหนังทั่วตัวและแขนขา รวมถึงที่ผิวหนังอัณฑะ ลักษณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่ในบางครั้งอาจมีอาการบวมแดงอักเสบร่วมด้วย

             เนื่องจากการวินิจฉัย ต้องอาศัยการตรวจดูลักษณะด้วยค่ะ หากตรวจดูด้วยตนเองแล้วยังไม่แน่ใจว่าเข้ากับลักษณะของโรคใด ควรพบแพทย์เพื่อตรวจให้การวินิจฉัยนะคะ