ถามแพทย์

  • มีตุ่มที่อวัยวะเพศ พอบีบ ก็ขึ้นมาเพิ่ม ควรรักษาอย่างไร

  •  Weerapong Wongsiri
    สมาชิก
    ผมเป็นตุ่มที่อวัยวะเพศของผมครับ.ตุ่มมีตรงขนตรงอวัยวะเพศครับแต่ผมบีบมันไปแล้วมันขึ้นมาประมาณ 11 ตุ่ม ผมต้องทำยังไงดีครับถึงจะหายพอจะมีทางรักษาเองไหมครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Weerapong Wongsiri, 

                        ตุ่มที่อยู่บริเวณขนตรงอวัยวะเพศ อาจเป็น

                       1. รูขุมขนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา มักมีสาเหตุมากจากถอนหรือโกนขน หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อผ้าหยาบเกินไป ทำให้เสียดสีผิวหนังและเกิดการระคายเคือง อาการคือจะเป็นตุ่มแดงๆ และอาจมีหนองเกิดขึ้น ดูคล้ายสิว มีอาการเจ็บ และคันร่วมด้วย มักเกิดขึ้นหลายๆตุ่ม

                       2.  หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส molluscum contagiosum virus ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ สามารถพบได้ที่ผิวหนังทั่วตัว ลักษณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่เจ็บหรือคัน 

                      3. ซีสต์ไขมันผิวหนังขนาดเล็ก (sebaceous cyst หรือ epidermal inclusion cyst) จะคลำได้เป็นก้อนหรือตุ่มนิ่มๆ อาจพบรูเปิดจากก้อน หากบีบออกอาจเห็นมีสารสีขาวคล้ายเนย มีกลิ่นเหม็น แต่มักมีเพียง 1 ตุ่ม

                      4. โรคเริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่มักจะพบที่องคชาต หรืออาจพบได้ที่ถุงอัณฑะ รอบรูทวารหนัก ขาหนีบ ไม่คอยพบบริเวณหัวหน่าวที่มีขน อาการจะเริ่มต้นด้วยแสบๆคันๆ บริเวณที่จะเป็นนำมาก่อน แล้วตามด้วยการเกิดเป็นตุ่มน้ำใส ขนาดเล็กๆ หลายๆตุ่ม อยู่ติดๆ กันเป็นกลุ่ม ซึ่งจะมีอาการปวด เจ็บๆแสบๆ อาจร่วมกับอาการคัน ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกออกเป็นแผลตื้นๆ แล้วจึงแห้งและตกสะเก็ดหายไปได้เอง 

                        หากตุ่มเกิดเฉพาะบริเวณที่มีขน ก็น่าจะเป็นรูขุมขนอักเสบดังที่กล่าวไป ซึ่งอาจใช้ยาปฏิชีวนะแบบทา เช่น   มิวพิโรซิน แต่หากมีจำนวนหลายตุ่มและเป็นบริเวณกว้าง (mupirocin) ควรทานยาปฏิชีวนะ เช่น dicloxacilln เป็นต้น ร่วมกับการดูแลความสะอาด ได้แก่ การล้างบริเวณที่เป็นด้วยสบู่ที่ผสมยาฆ่าเชื้อ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง หลีกเลี่ยงการโกนขนและถอนขน ใส่กางเกงชั้นในและกางเกงที่ไม่รัดแน่นเกินไป เป็นต้น  หากตุ่มที่เป็นอยู่นั้นไม่หาย หรือขยายใหญ่ขึ้น หรือมีจำนวนหลายตุ่มมากขึ้นอีก ควรไปพบแพทย์ค่ะ