-
มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมา 1 สัปดาห์แล้ว 2-3 วัน มีอาการแสบที่ปลายอวัยวะเพศ มีมูกสีเหลืองออกมา เป็นหนองในไหม
-
Jul 19, 2018 at 01:53 AM
มีsex กับแฟนทางด้านหลัง(เป็นฝ่ายรับ)ประมาณ1 สัปดาห์ครับแต่ก็ใส่ถุงยางป้องกันนะครับ อาการพึ่งมาเป็นได้2-3วัน โดยมีอากการแสบที่ปลายอวัยวะเพศ เเล้วพึ่งมาสักเกตุว่ามีมูกสีเหลืองออกมาที่ปลายด้วย เลยส่งสัยว่าผมเป็นหนองในรึเปล่าครับJul 24, 2018 at 04:12 PM
สวัสดีค่ะ คุณ TeaTee,
อาการแสบที่ปลายอวัยวะชาย มีมูกสีเหลืองไหลออกมา อาจเป็นอาการของ
1. ปลายองคชาตอักเสบ (balanitis) ที่ไม่ได้เกิดจากการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเกิดจากการรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี หรือการมีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศที่รูดลงได้ไม่หมด ทำให้ยากต่อการทพความสะอาด ซึ่งการอักเสบอาจเกิดจากการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียก็ได้ อาการคือผิวหนังที่บริเวณปลายองคชาตจะบวมแดง หรืออาจมีผื่นแดง และมีอาการเจ็บ คัน หรือระคายเคืองปวดร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีน้ำเหลือง ข้นๆ ออกจากท่อปัสสาวะได้
2. เป็นหนองในแท้ ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 2-10 วัน จะเริ่มมีอาการปัสสาวะขัด แสบในลำกล้องเวลาปัสสาวะ ต่อมาเริ่มมีมูกใสๆ ไหลซึมจากท่อปัสสาวะ และภายใน 12 ชั่วโมงจะกลายเป็นหนองข้นสีเหลือง หากมีเพศสัมพันธ์อีกจะรู้สึกเจ็บปวด บางรายอาจมีอาการปวดและบวมของถุงอัณฑะ หรือมีการอักเสบที่หนังหุ้มปลายองคชาตร่วมด้วย
3.เป็นหนองในเทียม ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน ระยะฟักตัวของโรคคือประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยประมาณ 50% ของผู้ที่ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการใดๆ ที่เหลือจะมีอาการแสบที่ปลายท่อปัสสาวะ ปัสสาวะขัด และมีหนองไหล ซึ่งจะมีลักษณะเป็นมูกใสหรือมูกขุ่น ๆ ไม่เป็นหนองข้นแบบหนองในแท้ นอกจากนี้ยังอาจรู้สึกแสบหรือคันที่บริเวณอวัยวะเพศได้ด้วย
ประมาณ 30% ของผู้ที่เป็นหนองในแท้มักติดเชื้อหนองในเทียมร่วมด้วย
3.ท่อปัสสาวะอักเสบจากการติดเชื้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะมีอาการปัสสาวะขัดหรือแสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะขุ่น หรือมีเลือดปน แต่จะไม่ถึงขั้นเป็นหนองแบบโรคหนองใน
หากเป็นแค่ฝ่ายรับ และไม่ได้ใช้อวัยวะเพศของตนเองในการสอดใส่ ก็ไม่เกิดจากโรคหนองใน แต่น่าจะเกิดจากการมีปลายองคชาตอักเสบ จากการที่ดูแลรักษาสุขอนามัยไม่ดีของตนเอง ซึ่งการดูแลตนเองในเบื้องต้น ได้แก่การล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งที่อาบน้ำ โดยการถลกหนังหุ้มปลาย และถูปลายองคชาตและหนังหุ้มปลายด้วยนิ้วมือให้สะอาด ควรใช้สบู่ที่อ่อนโยนในการชำระล้าง ไม่ควรใช้สบู่ที่รุนแรงฟอก แต่ไม่ควรล้างบ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งแตกและยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และก่อนใส่เสื้อผ้า ต้องซับให้แห้ง หลีกเลี่ยงการทาโลชั่นหรือน้ำหอมบริเวณใกล้เคียงอวัยวะเพศ ล้างมือทุกครั้งก่อนจับอวัยวะเพศเพื่อปัสสาวะ และต้องถลกหนังหุ้มปลายทุกครั้งที่ปัสสาวะ เพื่อป้องกันปัสสาวะตกค้างหมักหมม เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ หรือพิจรณาขลิบหนังหุ้มปลายในกรณที่หนังหุ้มปลายไม่เปิด
แต่หากได้ใช้อวัยวะเพศของตนเองในการสอดใส่ ก็อาจเป็นโรคหนองในได้ ดังนั้นหากมีการใช้อวัยวะเพศของตนเอง แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ
-
ถามแพทย์
-
มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมา 1 สัปดาห์แล้ว 2-3 วัน มีอาการแสบที่ปลายอวัยวะเพศ มีมูกสีเหลืองออกมา เป็นหนองในไหม