เจ็บคอด้านซ้าย มา 2 วัน และรู้สึกหนาวและ ปวดเมื่อยตัว แต่ไม่มีน้ำมูก หรืออาการไอ เป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่

สวัสดีค่ะ คุณ Pipo Sonothai,

                 อาการเจ็บคอ หนาว และปวดเมื่อยตัว โดยที่ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ น่าเป็นอาการของ

                1. คออักเสบหรือคอหอยอักเสบ (pharyngitis) ส่วนใหญ่มักเกิดจากไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ แต่หากไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก ก็น่าจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียมากกว่า ซึ่งอาการคือจะมีไข้ หนาวสั่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้วิงเวียน คอแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีจุดหรือแผ่นสีขาวหรือสีเทาบริเวณลำคอ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโต

                 2.ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) ส่วนใหญ่มักเกิดจากไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่เช่นกัน แต่หากไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก ก็น่าจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียมากกว่า ซึ่งอาการคือมีไข้สูง หนาวสั่น เจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารได้ลำบาก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีกลิ่นปาก อาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอด้านหน้าโต ต่อมทอนซิลทั้งสองข้างจะบวมโต สีแดงจัด และมักมีแผ่นหรือจุดหนองขาว ๆ เหลือง ๆ ติดอยู่บนทอนซิล มักไม่มีอาการของไข้หวัด

                    สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ อาการได้แก่ มีไข้ ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ เสียงแหบ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว  บางรายมีอาการอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วยได้ มักหายได้เองใน 1 สัปดาห์ 

                    สำหรับการดูแลตนเองในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด ได้แก่ การดื่มน้ำเปล่ามากๆ โดยควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น งดน้ำเย็น พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ทานอาหารอ่อน ๆ รสจืด งดใช้เสียงมาก งดการสูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่มีควันบุหรี่ หรือควันต่างๆ งดดื่มแอลกอฮอล์ บ้วนปากล้างลำคอด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ เป็นต้น

                  หากยังคงมีอาการมาก คือมีไข้สูง เจ็บคอมาก กลืนลำบากและทอนซิลบวมโตมาก สีแดงจัด มีจุดหนองชัดเจน ควรไปพบพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะทานค่ะ เพราะหากไม่ได้รับยาปฏิชีวนะรักษา อาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น หูชั้นกลางอักเสบ จมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ ฝีที่ทอนซิล หรือเชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือดแล้วแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ทำให้เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบชนิดติดเชื้อ เป็นต้น หรืออาจกลายเป็นไข้รูมาติกได้