ถามแพทย์

  • คุณแม่เป็นลิ้นหัวใจรั่ว ต้องการรักษา รพ.ศิริราช ใช้สิทธิ 30 บาทได้ไหม

  •  Khun Chu Nong Koy
    สมาชิก
    คุณแม่มีอาการ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก นอนหงายไม่ได้ นอนไม่ค่อยหลับ เหนื่อยง่าย ใจสั่น หน้ามืดเป็นลมบ่อย บางครั้งมีอากาปวดท้องกระทันหันร่วมด้วย ไปตรวจที่ รพ.รัฐต่างจังหวัด ไม่พบความผิดปรกติ คุณหมอฉีดยาให้แล้วกลับบ้าน มาถึงบ้านคุณแม่ก็มีอาการเดิมอีก จึงไปตรวจที่ คลีนิคเอกชนต่างจังหวัด คุณหมอบอกเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ให้นอนและให้ยากินฉีดยารักษาตามอาการ อาการคุณแม่ดีขึ้นตามลำดับ แต่เนื่องจากเป็นคลีนิคเอกชนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อยากให้คุณแม่ไปตรวจรักษาที่ ศูนย์โรคหัวใจ รพ.ศิริราช เพื่อความแน่ใจว่าเป็นโรคนี้จริงและรักษาต่อเนื่อง 1.โดยใช้สิทธ์บัตรทอง 30บาท จะได้ไหมค่ะ 2. ถ้าได้ต้องเดินเรื่องอย่างไรบ้างค่ะ 3. หรือจะต้องใช้สิทธ์ิแบบไหนได้บ้างที่จะลดค่าใช้จ่ายในการรักษา เพราะกำลังจ่ายเรามีน้อย หากคุณแม่ได้รักษาที่ตัว รพ. ศิริราช ตัวดิฉันเองคิดว่าจะบริจาคร่างกายให้ทาง รพ.ศิราช เพื่อการศึกษา หากดิฉันสิ้นอายุขัย รบกวนคุณหมอ หรือผู้รู้ช่วยตอบ หน่อยนะค่ะ สงสารคุณแม่มากเลยตอนนี้ ขอบพระคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Khun Chu Nong Koy,

                    อาการของโรคลิ้นหัวใจรั่ว มักเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นระยะเวลาหลายปี บางรายอาจยาวนานถึง  40 ปี จึงจะเริ่มแสดงอาการที่ชัดเจน ซึ่งได้แก่ อาการเหนื่อยง่าย เวียนหัวบ่อย หน้ามืดวูบเป็นลม แน่นหน้าอก รู้สึกหัวใจเต้นผิดปกติหรือใจสั่น เท้าบวม เป็นต้น ซึ่งอาการของคุณแม่ก็น่าจะเกิดจากโรคนี้ได้ค่ะ 

                   โดยสาเหตุของโรคลิ้นหัวใจรั่ว ได้แก่

                    - มีความผิดปกติที่ลิ้นหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด แต่ไม่มีอาการในวัยเด็ก

                    - ลิ้นหัวใจเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น ลิ้นหัวใจจะหนาตัวขึ้นและเริ่มมีหินปูน เข้าไปสะสมในเนื้อเยื่อ ทำให้ปิดไม่สนิท หากมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดลิ้นหัวใจผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน 

                    - โรคหัวใจรูห์มาติค เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในลำคอ ซึ่งพบบ่อยในเด็ก ต่อมาร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา ต่อต้านหัวใจตนเอง เกิดการอักเสบของลิ้นหัวใจและทำให้ลิ้นหัวใจหนาตัวขึ้นมาก เกิดลิ้นหัวใจตีบและรั่ว 

                  - เกิดจากการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ ทำให้ลิ้นหัวใจอักเสบ เชื้อโรคอาจมาจากช่องปาก เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด (ในผู้ติดยาเสพติด) การเจาะตามร่างกาย เช่น เจาะลิ้น เจาะอวัยวะเพศ เป็นต้น

                     -  โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยจะมีอาการเกิดขึ้นตามหลังอาการของโรคหัวใจขาดเลือด

                      สำหรับการรักษา แพทย์จะประเมินจากการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ประกอบกับอาการ หากลิ้นหัวใจรั่วมาก จะพิจารณาผ่าตัดรักษาด้วยการเปลี่ยนลิ้นหัวใจ หากยังรั่วไม่มาก จะรักษาประคับประคองตามอาการ ซึ่งได้แก่ การใช้ยา การควบคุมระดับความดันโลหิต การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (หากเป็นเบาหวาน) การควบคุมน้ำหนัก ส่วนการดูแลตนเอง ได้แก่ การงดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก การงดการดื่มแอลกอออล์และสูบบุหรี่ การควบคุมอาหาร ไม่ทานอาหารที่มีรสเค็ม และมีไขมันสูง การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับระดับสมรรถภาพของหัวใจ เป็นต้น

                  ตอบคำถาม ตามข้อที่ถามดังนี้ค่ะ

                  1. การรักษาโรคลิ้นหัวใจรั่วนั้น สามารถใช้สิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ (หรือสิทธิ 30 บาท ในชื่อสมัยก่อน) ได้ค่ะ โดยต้องใช้สิทธิตามโรงพยาบาลที่ได้ขึ้นชื่อไว้เท่านั้นค่ะ หากทางโรงพยาบาลนั้นไม่สามารถรักษาได้ ก็จะมีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพที่จะรักษาได้ โดยจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตามเขตการรักษาค่ะ ดังนั้นอาจไม่สามารถเข้าไปรักษายัง รพ.ศิริราช ได้โดยตรงค่ะ

                2. สำหรับการเดินเรื่อง ต้องพาคุณแม่ไปยังโรงพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาก่อนค่ะ ทางโรงพยาบาลจะเป็นคนดำเนินเรื่องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นต่อไปค่ะ (ในกรณีที่โรงพยาบาลนั้นๆ รักษาไม่ได้)

                3. หากใช้สิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ รวมถึงการผ่าตัดรักษาด้วย แต่ทั้งนี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่าง ๆ ค่าห้องพิเศษหรือเครื่องมือพิเศษอื่นๆ ค่ะ

                สำหรับความคิดที่จะบริจาคร่างกาย นับเป็นการทำความดีที่น่ายกย่องมากค่ะ หากต้องการบริจาคที่ รพ.ศิริราช สามารถไปติดต่อได้ที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ขั้นตอนการบริจาค จะมีการให้เขียนหนังสือแสดงเจตจำนงว่าต้องการอุทิศร่างกาย และใช้หลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน หลังจากนั้นจะมีการออกบัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ค่ะ

              ขอให้บุญกุศลที่ได้คิดบริจาคร่างกาย ส่งผลให้คุณแม่อาการดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ และขอให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้ด้วยโรคอื่นใดค่ะ