ถามแพทย์

  • หลังทานยาฆ่าเชื้อครบ 14 วันแล้ว ยังมีอาการปวดท้องจุกเสียด เจ็บแน่นลิ้นปี่ ปกติไหม

  •  Thanawat Boonvaerojkul
    สมาชิก
    คือผมไปตรวจด้วยการส่องกล้อง พบว่าเป็นกระเพาะอาหารอักเสบ แบบไม่รุนแรงมาก (mild gastritis) แล้วก็มีเชื้อ H. pylori ด้วย หมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน 2 อาทิตย์แล้ว ตอนนี้ก็ทานครบแล้วครับ แต่ว่าอาการปวดท้องจุกเสียด แสบ แน่น บริเวณส่วนบนแถวลิ้นปี่ก็ยังไม่หายเลยครับ แล้วก็มีอาหารหายใจลำบาก หายใจไม่อิ่มด้วยครับ ซึ่งพวกนี้หมอบอกว่าเป็นอาการของกระเพาะอาหารอักเสบครับ เลยอยากถามว่า พอทานยาฆ่าเชื้อครบแล้ว อาการส่วนมากจะดีขึ้นแบบมากๆเลยหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องใช้เวลาให้ร่างกายรักษาการอักเสบของกระเพาะต่อไปครับ (ผมสงสัยว่าเชื้อจะดื้อยารึเปล่าเลยไปหาหมอซ้ำ แต่หมอก็บอกว่าสูตรยาที่ให้ทานไปค่อนข้าง 100% แล้ว เลยให้ยา PPI + ยาช่วยย่อย + ยาลดอาการปวด ลดท้องอืดมาทาน 1-2 เดือนแทนครับ)
    Thanawat Boonvaerojkul  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Thanawat Boonvaerojkul

    การติดเชื้อ H.pyroli เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่กระเพาะอาหารที่ทำให้มีการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งการอักเสบเรื้อรังนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์จนกลายไปเป็นเนื้อร้ายในกระเพาะอาหารได้ จึงมีความจำเป็นต้องรักษาการติดเชื้อดังกล่าวนี้

    หลังการรักษาการติดเชื้อนั้น อาจจะยังมีอาการปวดท้องจุกเสียด เจ็บแน่นลิ้นปี่ได้ ถ้ายังคงมีการหลั่งกรดในกระเพาะมากผิดปกติค่ะ ดังนั้นควรจะได้รับยาลดกรดประมาณ 2-4 สัปดาห์ต่อเนื่องร่วมไปด้วย แนะนำการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบก่อน และกลับไปติดตามอาการตามนัดค่ะ จากที่กล่าวมา แม้การติดเชื้อจะหายแล้ว แต่การที่ยังมีกระเพาะอาหารอักเสบซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไปกว่าจะไม่มีอาการใดๆเลยได้ ร่วมกับควรงดการรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้มีอาการ งดการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย