ถามแพทย์

  • หลังมีประจำเดือน แล้วมีเลือดออกเป็นสีน้ำตาล อยากทราบว่าผิดปกติหรือเปล่าค่ะ

  •  Ruttiyakon Pramun
    สมาชิก

    รบกวนหน่อยค่ะ


    คือหลังประจำเดือนประมาณอาทิตย์หนึ่ง  แล้วมีอาการปวดท้องนิดหน่อย และขณะมีเพศสัมพันธ์มีเลือดออกเป็นสีน้ำตาลร่วม  อย่างนี้มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่าค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Ruttiyakon Pramun,

                     หากเลือดที่ออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีปริมาณไม่มาก และเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าเป็นเลือดเก่า ซึ่งอาจเป็นเลือดประจำเดือนที่ค้างอยู่ได้ หากหลังจากนี้ไม่มีเลือดกะปริดกะปรอยออกมากอีก หรือไม่มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์อีก ก็ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ แต่หากยังคงมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยครั้ง ถือว่าผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

                  1. มีการอักเสบติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือช่องคลอด ซึ่งมักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย รวมถึงอาจมีอาการคันหรือแสบช่องคลอด ปวดท้องน้อย เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ อาจเป็นเชื้อรา แบคทีเรีย ปรสิต และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้  หนองในเทียม เป็นต้น

                   2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วม เจ็บช่องคลอดหรือท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ และมีตกขาวสีเหลืองหรือเขียว หรือมีเลือดปน มีกลิ่นเหม็น บางรายอาจมีไข้

                   3. มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก แต่มักไม่มีตกขาวหรือปวดท้องน้อยร่วม

                   4. การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของช่องคลอดได้ แต่จะไม่มีปวดท้องน้อยร่วม

                    5. มะเร็งปากมดลูก นอกจากทำให้มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจมีตกขาวสีผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น ตกขาวปนเลือด เลือดออกกะปริดกะปรอย และปวดท้องน้อยได้

                    ดังนั้นหากยังคงมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยครั้ง ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ