ถามแพทย์ กลับไปที่ชุมชนถามตอบ ไปตรวจภายในด้วยวิธี pap smear แต่ไปอ่านมาพบว่าให้ผลแค่ 50% ควรตรวจด้วย thin-prep และ HPV จริงหรือไม่ Nawaporn Junsukjamroen สมาชิก Mar 23, 2018 at 11:06 AM ดิฉันมีการไปตรวจภายใน ร่วมกับการตรวจ Pap Smearในวันนั้นแพทย์ได้แจ้งว่า ช่องคลอดมีกลิ่น และ ตกขาวสีเหลือง(แต่มีการสังเกตุตัวเองมาตลอดประจำ 3ปีที่ผ่านมา เราคิดว่าแบบนี้ปกติเพราะ กลิ่นคิดว่าคาวนิดหน่อยคือปกติ ตกขาวเหลืองนิดๆเพราะปนกับปัสสาวะ คะ) และแพทย์ได้บอกว่า หน้าตามดลูกแบบนี้ควรมีการตรวจอย่างใกล้ชิดแต่ให้รอดูผลเชื้อ HPV ก่อน และได้จ่ายยาให้ทาน ชื่อ เมโทรนิดาโซล 200 มก. หลังจากวันนั้น ดิฉันเลยไปปรึกษาพี่สาวเพื่อหาข้อมูล เค้าบอกว่าการตรวจ Pap Smearให้ผลแค่ 50% ควรตรวจ thin-prep ผลเชื้อ HPV 80% ชัวร์กว่า อยากได้ข้อมูลเปรียบเทียบคะตอนนี้ทาง รพ.โทรมาแจ้งผลแล้วคะว่า ปกติ แต่คุณหมอแนะนำให้ฉีดยาป้องกันมะเร็งปากมดลูกรบกวนด้วยคะ กังวลใจเรื่องนี้มากเลยคะ แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส สมาชิก Mar 23, 2018 at 03:17 PM สวัสดีค่ะ คุณ Nawaporn Junsukjamroen, การตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูก มี 2 เทคนิควิธี คือ วิธีการตรวจแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่า Pap smear กับเทคนิควิธี liqiud-based cytology ซึ่งมีหลายบริษัทที่ทำน้ำยาขึ้นมาสำหรับตรวจโดยเทคนิควิธีนี้ ซึ่ง Thin-prep ก็เป็นยี่ห้อหนึ่งที่เป็นชนิด liquid-based cytology นอกจากนี้ก็มียี่ห้อ Cell-prep, Surepath เป็นต้น โดยทั้ง 2 เทคนิค Pap smear กับเทคนิค liqiud-based cytology ต้องอาศัยการป้ายเซลล์จากปากมดลูกเหมือนกัน แต่ขั้นตอนในการนำไปตรวจนั้นแตกต่างกัน หากเป็นการตรวจแบบดั้งเดิม หรือ conventional pap smear ความแม่นยำในการตรวจหามะเร็งอาจน้อยที่สุด เนื่องจากจะมีการปนเปื้อนของเซลล์ต่างๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง เป็นต้น จึงทำให้รบกวนการแปรผลได้ ส่วนการตรวจด้วยวิธี liqiud-based cytology ในขั้นตอนการเตรียมเซลล์ เซลล์เม็ดเลือดต่างๆ ที่ไม่ใช่เซลล์มะเร็งปากมดลูกจะถูกคัดออก ทำให้การตรวจหาเซลล์ปากมดลูกที่ผิดปกติเป็นไปง่ายขึ้น ดังนั้นความแม่นยำจะมากขึ้น นอกจากนี้สามารถนำเซลล์ที่เก็บได้ด้วยวิธีนี้ไปตรวจหาเชื้อไวรัส HPV (ไวรัสที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก) โดยการตรวจหายีนของไวรัสโดยตรง ดังนั้นหากใช้ทั้งการตรวจหาเซลล์ผิดปกติด้วยวิธี liqiud-based cytology และตรวจหาเชื้อ HPV จะทำให้การตรวจมีความแม่นยำขึ้นไปอีกค่ะ ดังนั้นหกาตรวด้วยวิธี pap smear แล้วผลปกติ อาจรอระยะเวลาอีกซัก 6 เดือนแล้วค่อยไปตรวจด้วยวิธี liqiud-based cytology ร่วมกับการตรวจหา HPV หรือหากไม่สบายใจอาจไปตรวจเลยก็ได้ค่ะ หากผลปกติดี สามารถเว้นระยะการตรวจไปได้ 3 ปีค่ะ Share: กลับไปที่ชุมชนถามตอบ