ถามแพทย์

  • ไปตรวจภายในด้วยวิธี pap smear แต่ไปอ่านมาพบว่าให้ผลแค่ 50% ควรตรวจด้วย thin-prep และ HPV จริงหรือไม่

  •  Nawaporn Junsukjamroen
    สมาชิก

    ดิฉันมีการไปตรวจภายใน ร่วมกับการตรวจ Pap Smear
    ในวันนั้นแพทย์ได้แจ้งว่า ช่องคลอดมีกลิ่น และ ตกขาวสีเหลือง
    (แต่มีการสังเกตุตัวเองมาตลอดประจำ 3ปีที่ผ่านมา เราคิดว่าแบบนี้ปกติ
    เพราะ กลิ่นคิดว่าคาวนิดหน่อยคือปกติ ตกขาวเหลืองนิดๆเพราะปนกับปัสสาวะ คะ)

    และแพทย์ได้บอกว่า หน้าตามดลูกแบบนี้ควรมีการตรวจอย่างใกล้ชิด
    แต่ให้รอดูผลเชื้อ HPV ก่อน และได้จ่ายยาให้ทาน ชื่อ เมโทรนิดาโซล 200 มก.


    หลังจากวันนั้น ดิฉันเลยไปปรึกษาพี่สาวเพื่อหาข้อมูล เค้าบอกว่าการตรวจ 
    Pap Smear
    ให้ผลแค่ 50% ควรตรวจ 
    thin-prep ผลเชื้อ HPV 80%  ชัวร์กว่า อยากได้ข้อมูลเปรียบเทียบคะ

    ตอนนี้ทาง รพ.โทรมาแจ้งผลแล้วคะว่า ปกติ
    แต่คุณหมอแนะนำให้ฉีดยาป้องกันมะเร็งปากมดลูก

    รบกวนด้วยคะ กังวลใจเรื่องนี้มากเลยคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Nawaporn Junsukjamroen,

                       การตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูก มี 2 เทคนิควิธี คือ วิธีการตรวจแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่า Pap smear กับเทคนิควิธี liqiud-based cytology ซึ่งมีหลายบริษัทที่ทำน้ำยาขึ้นมาสำหรับตรวจโดยเทคนิควิธีนี้ ซึ่ง Thin-prep ก็เป็นยี่ห้อหนึ่งที่เป็นชนิด liquid-based cytology นอกจากนี้ก็มียี่ห้อ Cell-prep, Surepath เป็นต้น โดยทั้ง 2 เทคนิค Pap smear กับเทคนิค liqiud-based cytology ต้องอาศัยการป้ายเซลล์จากปากมดลูกเหมือนกัน แต่ขั้นตอนในการนำไปตรวจนั้นแตกต่างกัน

                    หากเป็นการตรวจแบบดั้งเดิม หรือ conventional pap smear ความแม่นยำในการตรวจหามะเร็งอาจน้อยที่สุด เนื่องจากจะมีการปนเปื้อนของเซลล์ต่างๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง เป็นต้น จึงทำให้รบกวนการแปรผลได้

                     ส่วนการตรวจด้วยวิธี liqiud-based cytology ในขั้นตอนการเตรียมเซลล์ เซลล์เม็ดเลือดต่างๆ ที่ไม่ใช่เซลล์มะเร็งปากมดลูกจะถูกคัดออก ทำให้การตรวจหาเซลล์ปากมดลูกที่ผิดปกติเป็นไปง่ายขึ้น ดังนั้นความแม่นยำจะมากขึ้น นอกจากนี้สามารถนำเซลล์ที่เก็บได้ด้วยวิธีนี้ไปตรวจหาเชื้อไวรัส HPV (ไวรัสที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก) โดยการตรวจหายีนของไวรัสโดยตรง ดังนั้นหากใช้ทั้งการตรวจหาเซลล์ผิดปกติด้วยวิธี liqiud-based cytology และตรวจหาเชื้อ HPV จะทำให้การตรวจมีความแม่นยำขึ้นไปอีกค่ะ

                     ดังนั้นหกาตรวด้วยวิธี pap smear แล้วผลปกติ อาจรอระยะเวลาอีกซัก 6 เดือนแล้วค่อยไปตรวจด้วยวิธี liqiud-based cytology ร่วมกับการตรวจหา HPV หรือหากไม่สบายใจอาจไปตรวจเลยก็ได้ค่ะ หากผลปกติดี สามารถเว้นระยะการตรวจไปได้ 3 ปีค่ะ