คันๆ แสบๆ บริเวณรูอวัยวะเพศ และมีตุ่มคล้ายหนอง เป็นอะไรคะ

สวัสดีค่ะ คุณ คำถาม,

                ตุ่มคล้ายหนองที่บริเวณอวัยวะเพศดังกล่าว อาจเป็น

                - โรคเริมที่อวัยวะเพศ เป็นฌรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยอาการแสบๆคันๆก่อน แล้วตามด้วยการเกิดเป็นตุ่มน้ำใส ขนาดเล็กๆ หลายๆตุ่ม อยู่ติดๆ กันเป็นกลุ่ม โดยอาจพบที่ปากช่องคลอด ในช่องคลอด ก้น หรือรอบทวารหนักก็ได้ ซึ่งจะมีอาการปวด เจ็บๆแสบๆ อาจร่วมกับอาการคัน ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกออกเป็นแผลตื้นๆ แล้วจึงแห้งและตกสะเก็ดหายไปได้ เอง โดยหากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจปัสสาวะแสบขัด มีไข้ อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตได้

               - รูขุมขนอักเสบ  ไม่ได้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ รูขุมขนอักเสบจะพบบริเวณหัวหน่าวหรือบริเวณแคมใหญ่ที่มีขน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา มักเป็นผลจากการถอนหรือโกนขน หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อผ้าหยาบเกินไป ทำให้เสียดสีผิวหนังและเกิดการระคายเคือง อาการคือจะเป็นตุ่มแดงๆ และอาจมีหนองเกิดขึ้น ดูคล้ายสิว มีอาการเจ็บ และคันร่วมด้วย มักเกิดขึ้นหลายๆตุ่ม

                 - โรคแผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus ducreyi ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการคือจะเริ่มต้นจากเป็นตุ่มนูนแดง จากนั้นตุ่มนูนจะแตกออกกลายเป็นแผล มักมีหลายแผล อยู่บริเวณแคมเล็กหรือด้านนอกของอวัยวะเพศ ทวารหนัก ขาหนีบ หรือที่ริมฝีปาก หรือลิ้นก็ได้ ลักษณะของแผลจะดูแฉะไม่สะอาด มีเนื้อเยื่อเละ ๆ ที่ก้นแผล ส่วนที่ขอบแผลจะนูน ไม่แข็ง และไม่เรียบ ในผู้ชายจะมีอาการเจ็บแผลมาก แต่ในผู้หญิงมักไม่ค่อยมีอาการเจ็บแผล และจะมีอาการตกขาวมาก มีกลิ่นเหม็น ต่อมาจะพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมโตและอาจกลายเป็นฝีหนอง แตกออกเป็นแผลได้ 

             - หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส molluscum contagiosum virus ซึ่งติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรคโดยตรง ดังนั้นจึงติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะของหูดข้าวสุก คือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน 

                นอกจกานี้ยังอาจเกิดจากการแพ้และระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆได้ ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงการทาโลชั่น น้ำหอม บริเวณอวัยวะเพศ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่รุนแรงฟอกถู ควรซักน้ำหลายๆครั้งหลังจากซักกางเกงใน เป็นต้น

                แนะนำให้คุณคำถามไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของตุ่มดังกล่าวค่ะ เพื่อจะไดเรับการรักษาได้ตรงกับโรคค่ะ