อายุ25ปี 3-4 วัน รู้สึกอืดท้องมาก ผมขับถ่ายปกติ กลืนอาหารได้ปกติ ไม่เจ็บ ตอนนี้ผมกังวลมากโดยเฉพาะโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร อยากทราบว่าใช่อาการของโรครึป่าวครับ

สวัสดีค่ะ คุณ "วันวาน ยังหวานอยู่"

           สาเหตุของอาการท้องอืดได้แก่

           1. การกลืนอากาศเข้าไปปริมาณมาก จากการอ้าปาก พูดคุย หัวเราะ หรือหายใจทางปาก นอกจากนี้การกินหรือดื่มเร็วเกินไป การใช้หลอดดูดเครื่องดื่ม การเคี้ยวหมากฝรั่ง การใส่ฟันปลอมที่หลวม รวมถึงการสูบบุหรี่ ก็ทำให้มีโอกาสกลืนอากาศเข้าไปมากขึ้น

           2. การทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สหรือเครื่องดื่มที่มีแก๊ส เช่น น้ำอัดลม ถั่ว เมล็ดธัญพืชต่างๆ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบการย่อยอาหารของแต่ละคนด้วย หรือทานอาหารเป็นปริมาณมากเกินไป

           3. การทานยาบางชนิด ยาแก้ปวดชนิดเสพติด อาหารเสริมธาตุเหล็ก

           4. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการท้องอืดสามารถพบในผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือนได้

           5. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ กระเพาะอาหารเป็นแผล โรคกรดไหลย้อน

           6. มีนิ่วในถุงน้ำดี

           7. ขาดน้ำย่อยอาหารบางชนิด เช่น น้ำย่อยย่อยโปรตีนนม

           8. โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ลำไส้แปรปรวน

           9. ท้องผูก

           10. เครียด วิตกกังวล

           12. มีเนื้องอกหรือมะเร็งในช่องท้อง เนื้องอกหรือมะเร็งของลำไส้ เนื้องอกหรือมะเร็งของรังไข่ มีน้ำในช่องท้อง

          สำหรับโรคมะเร็งกระเพาะอาหารก็เป็นสาเหตุของอาการท้องอืดได้ค่ะ แต่มักมีอาการอื่นร่วมด้วย ได้แก่ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ ซึ่งอาการปวดจะเป็นแบบเรื้อรังและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อาเจียน อาจมีเลือดปน ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ โลหิตจาง เป็นต้น แต่เนื่องจากคุณ "วันวาน ยังหวานอยู่" อายุยังน้อย โอกาสที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นน้อยมากๆ ค่ะ

          ในเบื้องต้น แนะนำให้ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย รสไม่จัด เคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมาก ไม่เคี้ยวหมากฝรั่ง ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ หลักเลี่ยงอาหารประเภทถั่วและธัญพืชต่างๆ รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอดต่างๆ หากสูบบุหรี่ก็ควรงดสูบบุหรี่ค่ะ

           สำหรับอาหารที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืด เช่น น้ำขิง ขมิ้นชัน พริกไทย เป็นต้น อาจหายามาทานบรรเทาอาการในเบื้องต้น ได้แก่ ไซเมทิโคน (simethicone) หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ค่ะ ขอให้อาการดีขึ้นนะคะ