ถามแพทย์

  • เป็นตุ่มแดงคันมากที่ขา มา 1 สัปดาห์ ใช้ยาอะไรก็ไม่หาย เป็นอะไร

  •  Onuma Phukthat
    สมาชิก
    เป็นตุ่มคันที่ขา เป็นมา เกือบ อาทิตหนึ่งแล้ว ใข้นาอพไรก้อไม่หาย อยากจะรู้คะ ว่าเป็นอะไร

    สวัสดีค่ะ คุณ Onuma Phukthat,

                          อาการคันที่ขาและมีตุ่มแดง อาจเกิดจาก

                        - การแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ 

                         - การติดเชื้อราที่ผิวหนัง

                         - ผื่นลมพิษ จากการแพ้ต่างๆ เช่น อาหาร ไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น แต่น่าจะเกิดที่บริเวณอื่นๆ ด้วย

                         - ผื่นแพ้ยา โดยจะต้องมีประวัติการใช้ยานำมาก่อน

                         - เป็นไข้ออกผื่นจากเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ เช่น อีสุกอีใส หัด เป็นต้น โดยมักจะมีอาการไข้และไม่สบายตัวต่างๆ นำมาก่อน และผื่นจะเกิดที่บริเวณอื่นๆ ด้วย

                          - โรคผิวหนังอักเสบชนิดต่างๆ 

                          ในเบื้องต้น หากมีอาการคันมาก ควรทานกลุ่มยาแก้แพ้ แก้คัน เช่น ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine), chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น พยายามหลีกเลี่ยงการเกา หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพ้ไปก่อน เช่น อาหารหรืออาหารเสริมต่างๆ การทาโลชั่นหรือครีมต่างๆ ไม่ใช้สบู่ที่รุนแรง ไม่ใช้หินหรือใยขัดตัว เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น หรือก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาค่ะ