ถามแพทย์

  • ปวดท้อง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน

  •  thanagan778
    สมาชิก

    คือผมเป็นกะเพาะมา5เดือนแล้ว เดือนก่อนก็ไปส่องกล้อง พบว่า หูรูด กะเพาะอักแสบ

    จอนแรกได้ยาลดกรดมา14เม็ด กินหมดแล้วไม่หาย กลับไปอีก หมอให้ ยาแก้ปวด

    แล้วก็ยาแก้ท้องอืด

    อาการผมมีดังนี้ ท้องไส้ ปั่นป่วน เหมือนมีกรด ตลอดเวลลา บางครั้งก็แสบร้อน แต่เป็นไม่บ่อย แต่ท้องปั่นป่วนนี้มีตลอดเวลลา นอนปุ่ปมาปั๊ป  

    มีจุกแน้นท้องบ้าง 

    บางครั้ง ถ่ายมีเลือด ติดมาเล็กน้อย

    บางครั้งก็ เป็นมูกวุ้น

    บางครั้งก็ปกติ

    ผมกลัวเป็นมะเร็งลำไส้จังง

    ผมอายุได้19 ปี ครับ 

    อยากทราบว่าต้องทำยังไงดี กังวนมาก

    สวัสดีค่ะ คุณ Thanagan778 

    โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  โดยทั่วไปเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงค่ะ ยังไม่ต้องกลัวนะคะ อาการของอาการของโรคกระเพาะอักเสบที่พบบ่อยคือ มีอาการปวดบริเวณท้องส่วนบน ตั้งแต่บริเวณใต้สิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือ อาจปวดแสบร้อนเหมือนหิวข้าว ปวดบีบ รู้สึกจุกแน่นหน้าอก จุกแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ เรอบ่อย คลื่นไส้อาเจียน อาการอาจดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่อรับประทานอาหารค่ะ ซึ่งก็มีความคล้ายคลึงกับอาการของคุณซัน นะค

    การตรวจโดยการส่องกล้องที่คุณได้ตรวจเป็นการตรวจเพื่อดูแผลในกระเพาะอาหารเป็นการตรวจตามมาตรฐานและหากพบว่ามีหูรูดกระเพาะอาหารอักเสบแล้วก็เป็นสาเหตุที่น่าจะอธิบายอาการทั้งหมดได้ค่ะ 

    การดูแลรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ได้แก่  การรับประทานยากลุ่มยาลดกรดเพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารเกิดความสมดุลและช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ซึ่งอาจจะต้องใช้ยาต่อเนื่องจนกว่าจะหายสนิทดีค่ะ และอาจต้องรับประทานยาเคลือบกระเพาะอาหาร ยาป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน ยาช่วยการเคลื่อนตัวและช่วยย่อยอาหารและลดแก๊สในกระเพาะอาหารเพื่อลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อค่ะ

    โรคกระเพาะอาหารอักเสบ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นโรคอันตรายนักแต่ก็ทำให้มีอาการเรื้อรังได้ค่ะ ดังนั้นการดูแลรักษาจำเป็นต้องอาศัยการรับประทานยาต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์และการปรับพฤติกรรมร่วมกันค่ะ

    การดูแลตนเองและปรับพฤติกรรมที่ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนได้แก่ การับประทานอาหารให้ตรงเวลา ในปริมาณที่พอดีในแต่ละมื้อไม่อิ่มแน่นมากเกินไป จะช่วยให้การหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเป็นปกติ  หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด อาหารประเภททอด อาหารรสเปรี้ยวจัด เพราะกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล และการสูบบุหรี่ รวมถึงหากิจกรรมที่ผ่อนคลาย ลดความเครียดเพราะความเครียดสามารถกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ค่ะ และไม่ควรเข้านอนหรือออกกำลังกายหลังกินอิ่มค่ะ

    แต่หากไม่ดีขึ้นควรกลับไปพบคุณหมอค่ะ และเล่าให้คุณหมอฟังว่ายังคงมีอาการอะไรอยู่บ้าง รวมถึงผลการตอบสนองต่อการรักษาการที่ผ่านมาค่ะ  และหากมีความกังวลเรื่องใดสามารถคุยกับคุณหมอที่ดูแลรักษาได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีข่วยเหลือแน่นอนค่ะ

    ขอให้อาการดีขึ้นไวไวค่ะ