ถามแพทย์

  • มีอาการน้ำมูกไหลตั้งแต่ 5 ขวบ จนตอนนี้ 9 ขวบ ทานยาแก้หวัดหายก็เป็นอีก เป็นอะไร

  •  ด.ญ. แตงไท
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ ลูกชายดิฉันอายุ9ขวบ มีอาการหวัดน้ำมูกไหลตลอดเวลาตั้งแต่ได้5ขวบก็เป็นแบบนี้มาตลอด ไปหาหมอด้วยอาการหวัด พอยาหมดก็ดีขึ้นแล้วก็กลับมาเป็นซ้ำๆแบบนี้ตลอดค่ะ ช่วง2-3ปีมานี้แม่สังเกตุว่าลูกชายมีอาการคือเวลานอนช่วงกลางคืนจะคัดจมูก แลัยิ่งเจอแอร์หรืออากาศๆเย็นจะคัดจมูกมาก ไม่ว่าจะนอนหรือว่าไม่นอนก็จะคัดจมูกตลอดค่ะ ตัวแม่เองก็ไม่ได้อยู่เลี้ยงน้องตลอดเพราะแม่ทำงานอีกที่ค่ะ แม่มีอาการกังวลใจกลัวลูกจะเป็นโรคอื่นมากกว่า เช่นไซนัสหรือโรคอื่นๆมากกว่าหวัด โดยปกติเป็นหวัดน่าจะ1อาทิตย์น่าจะหาย แม่มีความกังวลใจมากๆค่ะว่าลูกชายจะเป็นอะไร ซึ่งป้าของน้องเป็นคนเลี้ยงเค้าไม่ได้พาไปหาหมอเพราะเค้าเห็นว่าเป็นหวัดปกติ คุณแม่ขอรบกวนคุณหมอช่วยประเมินว่าลูกชายของแม่มีสิทธิ์เป็นอย่างอื่นนอกจากหสัดธรรมดามั้ยค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ด.ญ. แตงไท,

                        อาการมีน้ำมูกไหล เป็นๆ หายๆ มาตลอด 5 ปี และมีคัดจมูกช่วงกลางคืน และโดยเฉพาะเวลาโดนอากาศเย็น น่าจะเกิดจากเป็นโรคภูมิแพ้ ชนิดแพ้อากาศ (allergic rhinitis) มากกว่าการเป็นหวัด หรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง เพราะไข้หวัดนั้น มักจะเป็นอยู่เพียง 1-2 สัปดาห์แล้วหายไป ไม่น่ามีอาการแบบต่อเนื่อง หรือเป็นๆ หายๆ ติดต่อกันนานหลายปี หรือหากเป็นไซนัสอักเสบ มักจะทำให้มีน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลืองข้น ไม่ใส และมีอาการปวดบริเวณไซนัส ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก จมูกตรงระหว่างคิ้ว และหัวตา ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น โดยอาการจะเป็นแบบต่อเนื่องทุกวัน ไม่ได้เป็นๆหายๆ 

                        ดังนั้น หากอาการเป็นๆ หายๆ มาตลอด 5 ปี และน้ำมูกมีลักษณะใส  ก็น่าจะเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ชนิดแพ้อากาศได้ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบบริเวณโพรงจมูก เนื่องจากแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ได้แก่ ฝุ่น ไรฝุ่น ขนนก นุ่น ฝ้าย เชื้อราต่างๆ สะเก็ดผิวหนังสัตว์ต่างๆ ในสุนัข แมว หนู กระต่าย เกสรดอกไม้ ดอกหญ้า ไรฝุ่น แมลงสาบ และแมลงต่างๆ วัสดุเฟอร์นิเจอร์ เช่น ใยมะพร้าว เป็นต้น 

                          หากอาการของน้องยังไม่รุนแรง ก็สามารถดูแลตนเองได้ ในเบื้องต้น ต้องพยายามหาสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการและพยายามหลีกเลี่ยง หากมีน้ำมูกมาก อาจใช้วิธีล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ หากอาการเป็นต่อเนื่อง ก็อาจทานยาในกลุ่ม antihistamine เช่น cetirizine (เซทิริซีน), loratadine (ลอราทาดีน) หลีกเลี่ยงการโดนอากาศเย็น ไม่โดนลม ไม่โดนแอร์โดยตรง ไม่ดื่มน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ และที่ที่มีฝุ่นละอองมาก  โดยอาจใส้หน้ากากอนามัยป้องกัน หากต้องอยู่ในที่ที่มีฝุ่นมาก

                         นอกจากนี้ ก็ควรเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยลดการกำเริบของอาการ เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเน้นทานผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงขนม ของหวาน อาหารที่มีไขมันสูง และแป้งแปรรูปต่างๆ และควรให้น้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น

                          หากอาการไม่ดีขึ้น รุนแรงขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้เพื่อตรวจและรักษาค่ะ