ถามแพทย์

  • เป็นแผลที่แคมทั้ง 2 ข้าง มีหนองนิดหน่อย เจ็บ แต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อน เป็นอะไร

  •  nanee
    สมาชิก
    เป็นแผลทั้ง2ข้าง แผลออกแดงๆและเหมือนมีหนองนิดหน่อย เจ็บเวลานั่งและเดิน แต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาเดือนกว่าแล้วและตอนมีก็ใส่ถุงยางทุกครั้ง ก่อนหน้านี้เคยแบบนี้เป็นครั้งนึงตอนป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วต้องกินยาปฏิชีวะนะตลอด แล้วก่อนจะเป็นครั้งนี้ก็ได้มีการกินยาฆ่าเชื้อเพราะไม่สบายมาประมาณ1สัปดาห์ เป็นผลมาจากการกินยาหรือมีโอกาสเป็นโรคอะไรได้บ้างคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ nanee,

                          หากเคยมีประวัติเป็นแผลที่อวัยวะเพศมาก่อนแล้ว การกลับมามีแผลอีกครั้งดังกล่าว น่าจะเป็นเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus โดยเริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสบริเวณอวัยวะเพศ อาจมี 1 ตุ่มหรือหลายตุ่ม มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึมได้ หากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลียร่วมด้วย และอาจมีปัสสาวะแสบขัดและตกขาวผิดปกติได้ เมื่อเป็นเริมครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะกลับเป็นซ้ำๆ ได้อีกโดยไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์อีก เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในรางกายของเราไปตลอดชีวิต 

                       การกลับเป็นซ้ำของโรค จะเกิดเมื่อมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น หรือภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอจะทำให้เชื้อแสดงอาการที่อวัยวะเพศหรือที่ปากได้ ปัจจัยเหล่านั้น เช่น ความเครียด ช่วงมีประจำเดือน มีไข้ไม่สบาย การตากแดดจัด เป็นต้น

                       นอกจากนี้ แผลที่อวัยวะเพศ อาจเป็น แผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นกัน โดยจะเกิดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 3-7 วัน ดังนั้น หากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ จึงไม่น่าเกิดจากโรคนี้

                       แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจดูลักษณะของแผลว่าใช่โรคเริมหรือไม่ หากใช่ อาจทานยาต้านเชื้อไวรัส เช่น Acyclovir, valacyclovir ซึ่งจะทำให้โรคหายเร็วขึ้นและโอกาสการกลับเป็นซ้ำน้อยกว่า สำหรับยาชนิดทาประสิทธิภาพจะน้อยกว่ายาทาน

    nanee  nanee
    สมาชิก
    ตอนเป็นครั้งแรกใช้การล้างทำความสะอาดประมาณ 1 สัปดาห์หายค่ะ แต่ตอนนี้ที่เป็นเกิน 1 สัปดาห์แล้วค่ะ แต่ไม่มีตกขาวนะคะ