ถามแพทย์

  • 2 วันก่อน ไปจับสนิมแล้วล้างมือในที่กรอกน้ำ แล้วน้ำจากมือก็ตกลงไป ผมก็ดื่มต่อ แต่ตอนนี้เครียดหนักมากจนเนื้อกระตุก เกร็ง เป็นอะไรมั้ยครับ

  • สวัดดีครับ2วันที่แล้วผม ไปจับสนิมแล้วล้างมือในที่กรอกน้ำแล้วน้ำจากมือไม่มากก็ตกลงไป ผมก็ดื่มต่อ แต่ตอนนี้เครียดหนักมากจนเนื้อกระตุก เกร็ง(ที่แขนไม่ใช้ที่กราม) อาการเนื้อกระตุกเป็นมาปีกว่าแล้วครับ หมอบอกเพราะเครียด แต่ผมก็ฉีดวัคซีนเมื่อตอนประถมครบทุกเข็ม เป็นอะไรมั้ยครับ แล้วถ้ายังไม่ได้ฉีดเป็นอะไรมั้ยครับ ใด้ยินมาว่า"ตายอย่างเดียว" เครียดจนอยากตายแล้วครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ ก้านแก้ว ปัณณทัต,

                  หากในช่วงวัยเด็กได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์กำหนด รวมถึงได้รับการฉีดตอนเรียนชั้นประถมศึกษา ดังนั้นวัคซีนป้องกันบาดทะยักเข็มสุดท้ายจึงยังไม่เกิน 10 ปี ร่างกายเรายังมีระดับภูมิต้านทานตอเชื้ออยู่ค่ะ อีกทั้งโอกาสการปนเปื้อนบาดทะยักจากการดื่มน้ำที่ไหลผ่านมือเพียงเล็กน้อยนั้นแทบจะไม่มี ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นโรคจึงไม่มีค่ะ 

                  สำหรับอาการของโรคบาดทะยัก จะแสดงอาการ ใน 3-21 วันหลังจากรับเชื้อ โดยอาการแบ่งออกเป็นออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

                  1.กลุ่มที่เกิดอาการทั่วร่างกาย เป็นกลุ่มที่พบมากที่สุด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีไข้  โดยเริ่มต้นจะมีอาการกล้ามเนื้อบริเวณกรามแข็งเกร็ง อ้าปากได้ยาก เกิดอาการกลืนลำบาก ต่อมา กล้าม เนื้อบริเวณคอ ไหล่ และหลัง จะแข็งเกร็ง ทำให้มีอาการปวด และในที่สุดกล้ามเนื้อทั่วตัวก็จะแข็งเกร็งและมีการหดตัวเกิดขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีท่าทางที่จำเพาะ เช่น ได้แก่ กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามีการหดตัวและแข็งเกร็ง มีสีหน้าที่ดูเหมือนกำลังแสยะยิ้ม กล้ามเนื้อหลังหดตัวและแข็งเกร็ง โดยมีอาการหงายตัวออก กล้ามเนื้อขาเหยียดตึงไปด้านหลัง และกล้ามเนื้อแขนงอและบิดออกพร้อมกับกำหมัด

                 การหดเกร็งของกล้ามเนื้อดังกล่าวจะเกิดขึ้นเป็นพักๆ เพียงช่วงสั้นๆ โดยมีสิ่งเร้าเพียงเล็กน้อยเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการหดเกร็งขึ้นมา เช่น เสียงดัง การสัมผัสตัว ถ้าอาการหดตัวและแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อเกิดขึ้นยาวนาน จะทำให้หายใจได้ลำบาก ผู้ป่วยจะขาดอากาศและตัวเขียว มีโอกาสเสียชีวิตจากระบบหารหายใจที่ล้มเหลวได้

                ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นผิดจังหวะ มีไข้สูงมาก เหงื่อออกทั่วตัว 

                ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มีอัตราเสียชีวิตประมาณ 4-30% ดังนั้นไม่ใช่ 100% อย่างที่คุณ ก้านแก้ว ปัณณทัต กังวลค่ะ

                2.กลุ่มที่เกิดอาการแบบเฉพาะที่ พบได้ค่อนข้างน้อย อาการจะมีแค่การหดตัวและแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณใกล้แผลเท่านั้น พิษของเชื้อไม่ลุกลามเข้าสู่สมองและไขสันหลัง ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีโรคไม่รุนแรง อัตราเสียชีวิตประมาณ 1%

                3.กลุ่มที่เกิดอาการแบบเฉพาะที่ศีรษะ พบได้น้อยมาก เกิดจากผู้ป่วยมีอุบัติเหตุที่ศีรษะ หรือมีการติดเชื้ออักเสบของหูชั้นกลาง พิษของเชื้อจะเข้าสู่เส้นประ สาทบริเวณใบหน้า และอาจลุกลามเข้าสู่สมอง ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูง

                ดังนั้นอาการกล้ามเนื้อกระตุกที่ คุณก้านแก้ว ปัณณทัต เป็นมาปีกว่า จึงไม่ใช่อาการของโรคบาดทะยักแน่นอนค่ะ อาจเกิดจากความเครียดและวิตกกังวลอย่างที่คุณหมอบอกไปได้ค่ะ สาเหตุอื่นๆ ของกล้ามเนื้อกระตุก เช่น การขาดสารอาหารและวิตามิน เช่น วิตามินดี วิตามินบี หรือแคลเซียม ได้รับคาเฟอีนและสารกระตุ้นอื่น ๆ มากเกิน การใช้ยาบางชนิด เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์ เป็นต้น

                 หวังว่าคุณก้านแก้ว ปัณณทัต จะสบายใจขึ้นบ้างนะคะ

    ขอบคุณครับตอนนี้พยายามไม่เครียด