โรคภูมิแพ้เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายที่ทำงานมากเกินไป หรือภูมิคุ้มกันบกพร่องครับ

สวัสดีค่ะ

จากคำถามของคุณ googee ขอตอบดังนี้นะคะ

1.โรคภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปนั้น กับ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องเป็นคนละโรคมีกระบวนการการเกิดที่แตกต่างกันค่ะ

โดยที่โรคภูมิแพ้เป็นการที่ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น(ที่พบมาก เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ แมลงสาบ ละอองเกสรดอกไม้) มากเกินกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการเช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก ไอจาม คันตารอบดวงตา ผื่นตามตัว เป็นต้น แต่โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเชื่อไวรัส HIV นั้น เป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันซึ่งเป็นเหมือนทหารคอยต่อต้านเชื้อโรคต่างๆไม่ให้สร้างความผิดปกติต่อร่างกายเราได้ถูกทำลายลงไป ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น นำมาซึ่งโรคต่างๆตามมาค่ะ

2.มีความเป็นไปได้ว่าอาการน้ำมูกไหลตอนเช้า แสบจมูก อาจไม่ได้เกิดจากวัคซีน แต่มาจากโรคหรือภาวะอื่นค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้ว หากผู้ป่วยมีอาการน้ำมูกใสๆไหลมากตอนเช้าหรือตอนก่อนเข้านอน มีอาการเช่น ไอจาม คันรอบดวงตา มักเป็นเฉพาะเจาะจงกับบางสถานที่ เช่น ห้องนอน มีความเป็นเป็นได้ว่าอาจเป็นภูมิแพ้ไรฝุ่นค่ะ เนื่องจากไรฝุ่นที่มักอยู่ตามที่นอน โซฟา เครื่องเฟอนิเจอร์ต่างๆในบ้านอาจก่อให้เกิดการกระตุ้นอาการได้ค่ะ สามารถอ่านเรื่องภูมิแพ้ได้ที่นี่ค่ะ ทั้งนี้คนทั่วไปสามารถพบว่าตนเองเริ่มมีอาการของโรคภูมิแพ้เป็นครั้งแรกได้ทุกช่วงของอายุค่ะ

3.เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่นั้นตัวเชื้อมีการพัฒนาและมีหลากหลายสายพันธุ์ ทางการแพทย์จึงได้ผลิตวัคซีนออกมาเพื่อให้เท่าทันโรคดังกล่าวอยู่ตลอด หากคุณ googee มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (สามารถดูได้ที่นี่ค่ะ) ขอแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกๆปีค่ะ