ไอเรื้อรัง ไปตรวจหมอบอกเป็นภูมิแพ้ ควรดูแลตัวเองอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Tanai SongSang  

อาการไอเรื้อรังสามาถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ หากได้รับการตรวจร่างกายและส่งตรวจเอกซเรย์ปอดแล้วปกติ รวมถึงคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งมักจะทำให้มีอาการทางเดินหายใจ ดังนี้ค่ะ จามบ่อย คันรอบดวงตา จมูก ปาก และลำคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล มีเสมหะ หายใจไม่ออก หอบหืด ไอ โดยมักไอตอนกลางคืนหรือช่วงอากาศเย็น หรือเวลาที่ได้รับสารกระตุ้นภูมิแพ้ ค่ะ

ควรดูแลตนเองดังนี้ค่ะ

1. ใช้ยาตามที่คุณหมอแนะนำและไปติดตามการรักษา หากมีอาการมากอาจจะต้องใช้ยารับประทานหรือใช้พ่นยาที่จมูกร่วมด้วยค่ะ

2. หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจจะกระตุ้นให้ไอ เช่น อากาศเย็น  สัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่ หรือให้คุณพ่อเลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและตัวท่านเองค่ะ  รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้แป้งฝุ่น  การไปในที่มีฝุ่นควันหรือมลพิษเยอะ  

3. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ โดยสารก่อภูมิแพ้ที่พบมากที่สุดคือ ไรฝุ่น ค่ะ  การลดไรฝุ่นที่บ้านได้แก่

- การใช้ผ้าปูที่นอนและปอกหมอนกันไรฝุ่น ซึ่งเป็นผ้าที่ทออย่างแน่นหนา ซึ่งป้องกันไรฝุ่นเข้ามาอยู่อาศัย รวมทั้งยังกันไรฝุ่นที่มีอยู่ตามที่นอนอยู่แล้วไม่ให้ออกมา

- ทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซักผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอน และผ้าที่ใช้คุมเตียงทั้งหมดด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพื่อกำจัดไรฝุ่นและสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ออกไป แต่หากไม่สามารถซักด้วยน้ำร้อนได้ก็ให้ใส่ลงในเครื่องปั่นแห้งอย่างน้อย 15 นาทีที่อุณหภูมิมากกว่า 60 องศาเซลเซียสเช่นกัน หรือจะใช้วิธีแช่แข็งด้วยความเย็นเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก็ฆ่าไรฝุ่นได้ แต่จะไม่อาจช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ ต้องใช้การซักล้างเท่านั้น ทั้งหมดนี้ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

- ไม่ควรวางตุ๊กตาไว้บนเตียงนอน

- ไม่ควรเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีขนต่างๆ

- เคลื่อนย้ายสิ่งของซึ่งอาจเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาไรฝุ่น โดยเฉพาะพรมต่าง ๆ ผ้าม่าน กองหนังสือ ควรจัดเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย

- ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ

- พิจารณาใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อกรองไรฝุ่น

4. สังเกตอาการว่าสัมพันธ์กับสิ่งใด หากทราบจะได้หลีกเลี่ยงค่ะ

5. หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบหมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ หรือหมอเฉพาะทางโรคระบบทางเดินหายใจค่ะ และอาจพิจารณาส่งตรวจเพิ่มเติมค่ะ

ขอให้อาการดีขึ้นโดยเร็วค่ะ