ถามแพทย์ กลับไปที่ชุมชนถามตอบ .. Supawadee Buathet สมาชิก Nov 30, 2017 at 07:42 PM ตุ่มอะไรไม่รู้ออกใต้หัวเห็ดขององคะชาต มันจะเป็นสีแดงๆออกขาวนิดหน่อยเรียงกันเริ่มมีเยอะขึ้น มันเป็นอะไรหรอคับ มีทางที่จะแก้ไขไหมคับมีทางจะหายรึป่าว แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส สมาชิก Dec 01, 2017 at 06:06 AM สวัสดีค่ะ คุณ Supawadee Buathet, ตุ่มสีแดงๆ ออกขาว ที่หัวองคชาตดังกล่าว อาจเป็น 1. pearly penis papules หรือโรคผื่นนูนพีพีพี ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ใช่โรคติดต่อ เกิดจากหลอดเลือดขององคชาตขยายตัว และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมาล้อมรอบ ลักษณะเป็นตุ่นนูนผิวเรียบสีเนื้อหรือชมพูอ่อน เรียงกันหลายตุ่มเป็นแถว อยู่บริเวณร่องรอบฐานหัวองคชาต มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน 2. fordyce spot คือต่อมไขมัน ที่เกิดขึ้นโดยไม่พบร่วมกับกับต่อมขน ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ใช่โรคติดต่อเช่นกัน ลักษณะคือ เป็นเม็ดหรือตุ่มนูนสีขาว หรือเหลืองอ่อน พบได้ทั้งที่ผิวหนังของถุงอัณฑะหรือองคชาต ในอวัยวะเพศหญิงก็พบได้ รวมถึงที่กระพุ้งแก้มและริมฝีปาก อาจพบเม็ดเดียวหรือหลายเม็ด ไม่คันและไม่เจ็บ 3. lymphocele หรือการคั่งของน้ำเหลือง จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเอง จะคลำได้เป็นตุ่นนูนแข็ง แต่ตุ่มจะค่อยๆ หายไปได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือวัน ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด 4. การอักเสบของผิวหนัง จากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักมีลักษณะเป็นตุ่มแดง อาจมีหนองเกิดขึ้นคล้ายสิวดังกล่าว จะมีอาการเจ็บร่วมด้วย 5. หูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะคือจะเห็นเป็นติ่งเนื้อนุ่มๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวขรุขระ อาจพบจุดเดียวหรือหลายจุด มักพบขึ้นที่รอยต่อระหว่างส่วนหัวและลำขององคชาต ใต้หนังหุ้มปลาย มักไม่มีอาการ แต่อาจทำให้เกิดอาการคัน แสบ หรือเจ็บได้ขณะมีเพศสัมพันธ์ 6. หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส molluscum contagiosum virus ซึ่งติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรคโดยตรง ดังนั้นจึงติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ สามารถพบได้ที่ผิวหนังทั่วตัวและแขนขา รวมถึงที่องคชาต ลักาณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละๆ คล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่เจ็บหรือคัน 7.เนื้องอกธรรมดาและมะเร็งขององคชาติ หากได้ตรวจดูด้วยตนเองแล้ว ลักษณะของตุ่มที่เป็นอยู่ มีลักษณะไม่เหมือนในข้อ 1-3 แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ ในเบื้องต้น ไม่ควรไป แคะ แกะ เกา เพราะอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ค่ะ Share: กลับไปที่ชุมชนถามตอบ