Microdermabrasion หรือไมโครเดอมาเบรชั่น เป็นการวิธีการขัดผิวชั้นนอกเพื่อเสริมความงาม โดยการใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วในบริเวณหน้า คอ หน้าอก หลัง มือ หน้าท้อง รอบเอวหรือในบริเวณอื่น ๆ ผู้ที่ขัดผิวด้วยวิธี Microdermabrasion อาจต้องขัดผิวซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยทั่วไป การขัดผิวด้วย Microdermabrasion จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหรือร่างกาย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาในระหว่างกระบวนการ อีกทั้งยังสามารถทำได้กับทุกสภาพผิวโดยไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยนหรือก่อให้เกิดรอยแผลเป็นใด ๆ แต่เป็นวิธีที่จะต้องทำโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่สามารถแก้ไขจุดบกพร่องที่เห็นได้ชัดอย่างร่องลึกหรือรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ได้
Microdermabrasion มีประโยชน์อย่างไร
การขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกด้วย Microdermabrasion เพื่อการปรับสภาพผิวหรือปรับสมดุลของสีผิวนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ อาทิ
- มีริ้วรอยร่องตื้น
- มีรอยสิว หลุมสิว สิวหัวดำ หรือสิวไม่รุนแรง
- มีจุดด่างดำ ฝ้า กระตามวัย
- รูขุมขนกว้าง
- ผิวแตกลาย สีผิวไม่เท่ากัน
- ผิวไหม้แดด
รูปแบบของการขัดผิวด้วย Microdermabrasion
การขัดผิวด้วย Microdermabrasion สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบตามประเภทเครื่องมือที่ใช้ ได้แก่
1) การขัดผิวด้วยเพชร (Diamond-Tip Microdermabrasion) โดยจะเป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแท่งยาวและส่วนปลายมีเพชรติดอยู่ถูไปบนผิวบริเวณที่ต้องการขัด จากนั้นตัวเครื่องจะดูดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทั้งนี้ การขัดผิวด้วยเพชรจะไม่มีผงฟุ้งออกมาจากตัวเครื่องจึงปลอดภัยต่อการขัดเซลล์ผิวบริเวณริมฝีปากและรอบดวงตา
2) การขัดผิวด้วยผงคริสตัล (Crystal Microdermabrasion) โดยผู้เชี่ยวชาญจะใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแท่งยาวต่อกับสายและตัวเครื่อง จากนั้นจึงพ่นละอองคริสตัลเพื่อขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกและตัวเครื่องจะดูดผงคริสตัลกลับเข้าไปพร้อมเซลล์ผิวที่หลุดลอกออกมา แต่เนื่องจากเป็นการขัดผิวด้วยผงคริสตัล ผงอาจเข้าตา จมูก หรือปากในระหว่างการขัดผิวได้
ผลข้างเคียงจากการขัดผิวด้วย Microdermabrasion
โดยทั่วไป การขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วย Microdermabrasion อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ผิวเป็นรอยแดงหรือรอยช้ำบาง ๆ รู้สึกตึงในบริเวณที่ขัด ผิวแพ้ง่าย ผิวบวม มีรอยถลอกไม่รุนแรง แผลพุพองรอบริมฝีปาก เกิดรอยช้ำรอบดวงตา ผิวแห้งหรือตกสะเก็ด
และแม้ว่าผู้ที่ขัดผิวด้วยวิธีดังกล่าวจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังจบขั้นตอน แต่ก็ไม่ควรให้ผิวบริเวณที่ขัดโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาอย่างน้อย 2–3 วัน ควรใช้ครีมกันแดดปกป้องผิว รวมทั้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อคงความชุ่มชื้นหลังการขัดเซลล์ผิวด้วยเช่นกัน
นอกจากจะดูแลผิวด้วย Microdermabrasion การดูแลผิวให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอด้วยวิธีอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการบีบสิวด้วยตนเอง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิว โกนขนอย่างระมัดระวัง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ไร้มัน พักผ่อนอย่างเพียงพอ จัดการความเครียด และเลิกสูบบุหรี่