ประโยชน์ของการเต้น ความสนุกที่มาพร้อมกับสุขภาพ

การเต้นเป็นการแสดงออกทางศิลปะผ่านการเคลื่อนไหวรูปแบบหนึ่ง นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อความบันเทิงแล้ว การเต้นยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย เพราะการเต้นต้องใช้ร่างกายเพื่อเคลื่อนไหว ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้สมาธิและการจดจำ ประโยชน์ของการเต้นจึงไม่จำกัดอยู่แค่ทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังดีต่อจิตใจและสมองด้วย

ในปัจจุบันการเต้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ฮิปฮอป ป๊อป ซุมบ้า ลีลาศ และแอโรบิก แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งสิ้น เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะอย่างต่อเนื่องจะช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย สมอง และอาจลดความเสี่ยงของโรคได้ หากคุณกำลังมองหากิจกรรมสนุก ๆ และดีต่อสุขภาพ การเต้นก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย

ประโยชน์ของการเต้น ความสนุกที่มาพร้อมกับสุขภาพ

ประโยชน์ของการเต้น

การเต้นอาจส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตในหลายด้าน ดังนี้

  1. เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย

ด้วยความหลากหลายของท่าเต้น ทำให้การเต้นส่วนใหญ่ต้องใช้อวัยวะหลายส่วนหรืออาจเรียกได้ว่าทั่วทั้งร่างกายประกอบกัน อวัยวะแต่ละส่วนก็มีส่วนประกอบย่อย อย่างกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และข้อต่อ ซึ่งการเคลื่อนไหวจะช่วยบริหารส่วนประกอบเหล่านี้ เมื่อบริหารเป็นประจำก็จะเกิดการพัฒนาและแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น กระดูกและข้อต่อสามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น เป็นต้น

นอกจากนี้ศักยภาพทางด้านร่างกายที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว เช่น การทรงตัว ความคล่องตัว และอาจลดการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวหรือการเล่นกีฬาได้ด้วย

  1. ลดน้ำหนัก กระชับหุ่น

การเต้นเป็นกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเต้นกับเพลงที่มีจังหวะเร็ว เพราะท่าเต้นจะต้องเคลื่อนไหวรวดเร็วตามไปด้วย การเคลื่อนไหวร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานานจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายและดึงพลังงานมาใช้ การเต้นบางประเภท อย่างการเต้นแอโรบิกและการเต้นซุมบ้า (Zumba) จึงเป็นการคาร์ดิโอรูปแบบหนึ่ง คาร์ดิโอจัดเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน หากทำติดต่อกันเป็นประจำอาจช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันส่วนเกิน และทำให้รูปร่างดีขึ้นด้วย

  1. สร้างสุขภาพจิตที่ดี

ประโยชน์ของการเต้นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือช่วยปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายตามจังหวะดนตรี การเต้นอาจบรรเทาอารมณ์ด้านลบ อย่างความเครียด ความเศร้า และความเบื่อหน่ายได้

การศึกษาชิ้นหนึ่งได้ทดลองให้วัยรุ่นจำนวนหนึ่งที่มีภาวะซึมเศร้าชนิดไม่รุนแรง ภาวะนี้มักทำให้เกิดความรู้สึกเศร้า เสียใจ ผิดหวัง และร้องไห้บ่อยขึ้น ผู้ทดลองให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ารับการบำบัดภาวะดังกล่าวด้วยการเต้นเป็นเวลา 12 สัปดาห์ หลังจากการทดลอง พบว่าอาการของภาวะดังกล่าวดีขึ้น ซึ่งผู้ทดลองอธิบายว่า การเต้นและการเคลื่อนไหวช่วยปรับสมดุลการทำงานสมองทำให้สมองสามารถควบคุมระดับของฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ได้ดีขึ้น โดยฮอร์โมนทั้งสองนี้ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ความรู้สึก และพฤติกรรม เมื่อฮอร์โมนทั้งสองชนิดสมดุลจึงอาจช่วยลดความผิดปกติจากภาวะดังกล่าวได้

ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักจากการเต้นจะช่วยสร้างความมั่นใจในรูปร่างได้มากขึ้น รวมถึงการเข้าคลาสเรียนเต้นอาจช่วยเพิ่มระดับทักษะการเข้าสังคม ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ จึงช่วยให้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความเครียดได้ 

  1. รักษาการทำงานของสมอง

การเต้นเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยบริหารร่างกายและสมอง เมื่อทำติดต่อกันเป็นเวลานานจะเพิ่มประสิทธิภาพของสมองในด้านการจดจำ การวางแผน และการจัดการได้ ไม่เพียงเท่านั้น การเต้นเป็นการออกกำลังกายที่มีข้อดีบางอย่างที่อาจโดดเด่นกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น ซึ่งก็คือการช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม (Dementia) อย่างที่ทราบกันดีโรคสมองเสื่อมมักพบในคนสูงวัย เป็นโรคที่ส่งผลต่อทั้งความคิดและพฤติกรรมทำให้เกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ ผู้ป่วยบางรายอาจถึงขั้นช่วยเหลือตนเองไม่ได้

งานทดลองชิ้นหนึ่งได้เปรียบเทียบประโยชน์แต่ละด้านของการออกกำลังกายหลาย ๆ ชนิด เช่น กอล์ฟ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เทนนิส รวมถึงการเต้น และพบว่าการเต้นเป็นการออกกำลังกายเพียงชนิดเดียวที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมได้

ดังนั้นประโยชน์ของการเต้นจึงไม่เพียงช่วยรักษาการทำงานของสมอง แต่อาจลดความเสี่ยงของโรคทางสมองบางชนิดได้ด้วย

นอกจากนี้ การเต้นยังอาจส่งผลดีต่อสุขภาพแบบเดียวกับการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ เช่น กระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพและโรคเรื้อรัง

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของการเต้นเกี่ยวกับการรักษาและป้องกันโรคจำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประโยชน์ที่แน่ชัด อีกทั้งผลของการศึกษาแต่ละชิ้นมีวิธีการทดลองและรูปแบบการเต้นที่แตกต่างกันจึงไม่ได้สามารถสรุปได้ว่าการเต้นแบบใดให้ประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด รวมถึงการเต้นแต่ละประเภทก็อาจมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

เรื่องควรรู้ก่อนการเต้น

ก่อนเริ่มปลดปล่อยร่างกายและอารมณ์ไปกับเสียงเพลงและการเคลื่อนไหว คุณควรรู้เรื่องต่อไปนี้ก่อน

  • หากคุณมีน้ำหนักตัวมาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเต้น เพราะการเต้นมักทำให้เกิดแรงกดและแรงกระแทกตามข้อต่อ หากน้ำหนักตัวมากอาจสร้างแรงกดทับให้กับข้อต่อมากกว่าปกติ โดยเฉพาะข้อเท้าและหัวเข่า ซึ่งอาจเร่งให้ข้อต่อเสื่อมเร็วขึ้นได้
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเต้นและการออกกำลังกายทุกชนิด
  • เลือกการเต้นที่เหมาะสมกับคุณ การเต้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก แต่นอกเหนือจากแนวที่สนใจ ควรเลือกที่เหมาะกับสภาพร่างกาย หากสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีอาจเลือกการเต้นที่ใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเป็นหลัก แต่ถ้าหากเริ่มมีอายุ ควรเลือกการเต้นที่มีจังหวะช้าลงและมีแรงกระแทกน้อยเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ
  • เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะรองเท้า เสื้อผ้า หรือการออกกำลังกาย รวมไปถึงสิ่งที่ควรทำระหว่างการเต้น อย่างการพักจิบน้ำเป็นประจำ วิธีสังเกตการบาดเจ็บ และการปฐมพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • การเต้นอาจเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ง่ายสำหรับทุกคน ดังนั้นอย่ากดดันตนเองมากเกินไป ควรเริ่มต้นจากสเต็ปง่าย ๆ และค่อย ๆ พัฒนาความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย รวมถึงหมั่นฝึกฝนอยู่เป็นประจำเพื่อเพิ่มทักษะให้มากขึ้น
  • อย่าลืมวอร์มอัพก่อนการเต้น และคูลดาวน์หลังเสร็จเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ

เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการเต้นมากที่สุด คุณควรเต้นเป็นประจำ โดยยึดหลักเดียวกับการออกกำลังกาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คนทั่วไปที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์เพื่อรักษาการทำงานของร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรง และชดเชยพลังงานที่สูญเสียไป

การเต้นอาจช่วยให้คุณพัฒนาร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน หากสนใจอาจเริ่มได้ทันทีด้วยการฝึกฝนจากวิดีโอตามเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีกิจกรรมแก้เครียดและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม หากฝึกด้วยตนเอง ควรฝึกอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและอุบัติเหตุ