ชีส ของโปรดของใครหลาย ๆ คน กับประโยชน์และคำแนะนำในการรับประทาน

ชีสเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมวัวหรือนมแพะ ซึ่งมีให้เลือกรับประทานหลากหลายประเภท เช่น มอสซาเรลลา เชดดา พาร์มีซาน หลายคนมักคิดว่าเป็นชีสอาหารที่ดูไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักตัวอยู่ เนื่องจากชีสเป็นอาหารที่มีไขมันและโซเดียมสูง

อย่างไรก็ตาม หากเรารับประทานชีสในปริมาณที่เหมาะสม ก็อาจช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากมาย เพราะชีสแต่ละชนิดต่างมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โฟเลต วิตามินเอ วิตามินดี โดยเฉพาะแคลเซียม ซึ่งชีสมีมากกว่านมถึงสองเท่า

ประโยชน์ของชีส

ประโยชน์ต่อสุขภาพของชีส

การรับประทานชีสอาจมีประโยชน์บางอย่างต่อสุขภาพได้ เช่น

บำรุงกระดูกให้แข็งแรง

ชีสเป็นอาหารที่ผลิตจากนม ดังนั้น ชีสจึงมีปริมาณแคลเซียมที่สูง โดยเฉพาะเชดด้าชีส ซึ่งในปริมาณ 100 กรัมจะมีแคลเซียมประมาณ 710 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ชีสยังอุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินดี ที่ส่งผลดีต่อมวลกระดูก และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้

ป้องกันปัญหาฟันผุ

มีงานวิจัยบางชิ้นที่พบว่า เชื้อแบคทีเรียบางชนิด อย่างโพรไบโอติกที่อยู่ในชีส อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดฟันผุได้ โดยในการทดลองกับอาสาสมัคร 74 คน ในช่วงอายุ 18–35 ปี พบว่าเมื่อรับประทานชีสปริมาณ 75 กรัมต่อวัน ปริมาณเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ และยีสต์ที่เป็นสาเหตุของปัญหาช่องปากมีปริมาณลดลง

ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน

มีงานวิจัยบางชิ้นที่พบว่า การรับประทานชีสอาจส่งผลให้ร่างกายได้รับกรดไขมันทรานส์ปลามิโทเลอิก (Trans–palmitoleic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์นม ที่อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ 

นอกจากนี้ ชีสยังอาจช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ระดับอินซูลิน ลดความเสี่ยงการอักเสบต่าง ๆ และเพิ่มความไวต่ออินซูลินได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากรับประทานมากเกินไป จะทำให้ผู้รับประทานได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกินไป

ช่วยในการลดน้ำหนัก

การรับประทานชีสในปริมาณที่พอเหมาะอาจช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัวได้ เนื่องจากไขมันที่ได้จากการรับประทานชีสอาจส่งผลให้อยู่ท้องนานขึ้น และไม่รู้สึกหิวบ่อย แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกรับประทานชีสที่ไขมันต่ำในรับประทานที่พอเหมาะเช่นกัน

อาจช่วยบำรุงลำไส้

ชีสเป็นอาหารที่มักพบไพรไบโอติก (Probiotic) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีแต่อสุขภาพลำไส้ การรับประทานชีสจึงอาจช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ได้

อย่างไรก็ตาม ชีสเป็นอาหารที่มีปริมาณไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อหัวใจได้หากรับประทานมากเกินไป ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ควรจำกัดปริมาณการรับประทานชีสให้พอเหมาะ

คำแนะนำในการรับประทานชีสให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ

เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากชีสได้อย่างเต็มที่ การเลือกรับประทานชีสให้เหมาะสมนั้นมีความสำคัญ เนื่องจากชีสนั้นอุดมไปด้วยเกลือ ผู้รับประทานชีสจึงควรเลือกชีสที่มีปริมาณเกลือน้อย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชีสชนิดนิ่ม โดยตัวอย่างชนิดชนิดแข็งก็เช่น พาเมซานชีส

นอกจากนี้ ชีสที่ดีกับสุขภาพที่สุดควรเป็นชีสที่ทำสดใหม่ เช่น คอตเทจชีส (Cottage Cheese) เพราะมีโปรตีนที่ดีกับสุขภาพในปริมาณมาก แต่ทั้งนี้ก็ควรรับประทานในปริมาณที่น้อย หรือรับประทานชีสคู่กับโปรตีน อย่างเนื้อไก่ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิล บรอกโคลี หรือมะเขือเทศ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย

ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพ เช่น มีภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง (Lactose Intolerance) ผู้ที่แพ้นม ผู้ที่แพ้โปรตีนเคซีน (Casein) ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานชีส เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มนี้อาจเสี่ยงเกิดอาการผิดปกติจากการรับประทานชีสได้