ประโยชน์ของวิตามินซีมีอยู่หลากหลายประการ โดยมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิคุ้มกัน หัวใจ หรือสมอง รวมถึงช่วยปกป้องร่างกายจากปัญหาสุขภาพบางประการ บทความนี้จึงอยากชวนทุกไปรู้จักกับวิตามินซีและประโยชน์ของวิตามินซีให้มากขึ้น
ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานผักผลไม้นานาชนิด เช่น ส้ม มะม่วง สตรอเบอร์รี่ พริก มะเขือเทศ บรอกโคลี มันฝรั่ง และยังมีในรูปแบบของอาหารเสริมด้วย โดยปริมาณวิตามินซีที่เหมาะสมต่อวันจะอยู่ที่ 100 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่เพศชาย และ 85 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่เพศหญิง
5 ประโยชน์ของวิตามินซีที่ควรรู้
วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย เนื่องจากเป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในบทความนี้ได้รวบรวมประโยชน์ของวิตามินซีบางส่วนมาฝากกัน ดังนี้
1. ต้านอนุมูลอิสระ
หนึ่งในคุณสมบัติของวิตามินซีที่หลายคนอาจคุ้ยเคยกันดีคือช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อภายในร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง การรับประทานวิตามินซีจึงอาจลดความเสียหายในร่างกายและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคตได้
2. ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อกระบวนการผลิตเม็ดเลือดแดงและการลำเลี้ยงออกซิเจนไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากขาดแร่ธาตุชนิดนี้ไปหรือมีไม่เพียงพอ อาจเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็กหรือภาวะโลหิตจาง
เนื่องจากวิตามินซีช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กจากแหล่งอาหารที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ยาก เช่น อาหารจากพืช อาหารเจหรือมังสวิรัติ การรับประทานวิตามินซีจึงอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้รับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งที่สำคัญของธาตุเหล็ก
3. กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย
วิตามินซีมีส่วนอย่างมากในการเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย โดยเข้าไปช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดเชื้อโรคให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างสุขภาพผิวหนังที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันเชื้อโรค และช่วยสมานบาดแผลต่าง ๆ ให้หายเร็วขึ้น ส่งผลให้ไม่ป่วยหรือเป็นหวัดง่าย
อย่างไรก็ตาม หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการรับประทานวิตามินซีช่วยป้องกันไข้หวัดได้ แต่จริง ๆ แล้ววิตามินซีมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของโรคและระยะเวลาของการป่วยเป็นไข้หวัดเท่านั้น
4. บำรุงผิวพรรณ
คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ดูสุขภาพดี ยืดหยุ่น ไม่หย่อนคล้อย รวมถึงช่วยผลัดเซลล์ผิว โดยร่างกายของคนเราจะสร้างคอลลาเจนได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น จึงอาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณตามมาได้
โดยประโยชน์ของวิตามินซีต่อผิวพรรณคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้มากยิ่งขึ้น และยังอาจช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจน เมื่อคอลลาเจนในร่างกายเพียงพอต่อการนำไปใช้เสริมสร้างสุขภาพผิวหนัง ปัญหาที่เกี่ยวข้องก็อาจลดลง
5. ลดระดับความดันโลหิต
การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการรับประทานวิตามินซีอาจมีส่วนช่วยลดระดับความดันโลหิตในผู้ที่มีสุขภาพดีและผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และยังมีการศึกษาบางส่วนระบุว่าการรับประทานวิตามินซีปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน อาจช่วยลดระดับความดันโลหิตได้เล็กน้อย โดยช่วยให้ผนังหลอดเลือดคลายตัว ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังจำเป็นต้องมีงานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสิทธิภาพและความปลอดภัยของวิตามินซีในการลดความดันโลหิตอีกมาก ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตจึงไม่ควรรับประทานวิตามินซีเพื่อหวังผลทางการรักษา
ข้อควรรู้ก่อนรับประทานวิตามินซี
หลายคนทราบดีว่าวิตามินซีจากในอาหารและอาหารเสริมมักปลอดภัยต่อร่างกาย แต่การรับประทานวิตามินซีก็มีข้อควรระวังบางประการที่หากละเลยไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น
ประวัติสุขภาพของของผู้บริโภค
ผู้ที่กำลังมีปัญหาสุขภาพควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพราะการรับประทานวิตามินซีอาจทำให้อาการแย่ลง โดยเฉพาะโรคไต นิ่วในไต ภาวะเหล็กเกิน ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD Deficiency) รวมถึงผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
การทำปฏิกิริยาต่อยาอื่นของวิตามินซี
ผู้ที่กำลังรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์ใดอยู่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อน เนื่องจากยา วิตามิน อาหารเสริม หรือสมุนไพรบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับวิตามินซีจนส่งผลให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลงได้ เช่น ยาที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียม ยารักษามะเร็ง ยาที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนแอสโตรเจน (Estrogen) ยากลุ่มสแตติน ยาต้านไวรัส ยาวาร์ฟาริน หรือไนอะซิน (Niacin)
การใช้วิตามินซีเกินขนาด
การรับประทานวิตามินซีในปริมาณมากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย แสบร้อนกลางอก หากรับประทานวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันอย่างต่อเนื่อง อาจไปเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงอย่างนิ่วในไตหรือท้องเสียอย่างรุนแรงได้
หากเลือกรับประทานวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากสำนักงานอย. และมีความน่าเชื่อถือ ผู้บริโภคยังควรอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ก่อนรับประทานเสมอเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
อย่างไรก็ตาม แม้วิตามินจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็เป็นเพียงทางเลือกที่มีส่วนช่วยเสริมสุขภาพเท่านั้น ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาหรือป้องกันปัญหาสุขภาพใด ๆ ในกรณีที่พบสัญญาณอาการผิดปกติก็ควรไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุดต่อไป