หากจะพูดถึงเห็ดที่คนรู้จักอย่างแพร่หลายและนิยมรับประทานกันทั่วไป หนึ่งในนั้นคงต้องมีเห็ดเข็มทองอย่างแน่นอน เพราะสามารถนำมาทำอาหารได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด หรือย่าง ซึ่งนอกจากเห็ดเข็มทองจะมีรสชาติที่อร่อย รสสัมผัสที่เหนียวนุ่มแต่กรุบกรอบ และรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว เห็ดเข็มทองยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมายด้วย
เห็ดเข็มทอง 100 กรัม ให้พลังงาน 37 แคลลอรี่ และยังให้คาร์โบไฮเดรต 7.8 กรัม ใยอาหาร 2.7 กรัม และโปรตีนอีก 2.66 กรัมด้วย เห็ดเข็มทองอุดมไปด้วยวิตามินบีหลายชนิด ทั้งวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 และวิตามินบี 5 อีกทั้งยังมีวิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค โพแทสเซียม และกรดอะมิโน ยิ่งไปกว่านั้น เห็ดเข็มทองยังมีปริมาณโซเดียมต่ำและไม่มีคอเลสเตอรอลด้วย
ประโยชน์ของเห็ดเข็มทอง
เห็ดเข็มทองมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้
มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ
เห็ดเข็มทองมีใยอาหารและโพแทสเซียมซึ่งอาจส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะโพแทสเซียมที่มีสรรพคุณในการควบคุมความดันโลหิต และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) ด้วย
งานวิจัยในหนูทดลองชิ้นหนึ่งพบว่าหนูที่ได้รับอาหารที่มีไขมันสูงร่วมกับการได้รับสารสกัดจากเห็ดเข็มทอง มีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์และระดับคอเลสเตอรอลสะสมที่ดีขึ้น จึงคาดว่าเห็ดเข็มทองอาจมีประสิทธิภาพในการช่วยลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย และส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้เป็นเพียงการวิจัยในสัตว์ทดลองเท่านั้น ยังต้องการการศึกษาในคนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง
มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
เห็ดเข็มทองอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด เช่น เควอซิทิน (Quercetin) กรดแกลลิก (Gallic Acid) กรดเฟอรูลิก (Ferulic Acid) และกรดคาเฟอิค (Caffeic Acid) ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้เกิดการอักเสบและเสียหายจากปฏิกิริยาของอนุมูลอิสระ รวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในเกิดโรคเรื้อรังอย่างโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
เห็ดเข็มทองมีสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) และโปรตีนบางชนิดที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเจริญเติบโตของเนื้องอกด้วย
อาจช่วยลดหรือควบคุมน้ำหนัก
เห็ดเข็มทองมีใยอาหารในปริมาณมาก ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องผูกหรืออาหารไม่ย่อย นอกจากนี้ใยอาหารยังช่วยให้อิ่มเร็ว จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพในการควบคุมน้ำหนัก รวมทั้งเห็ดเข็มทองยังมีปริมาณโซเดียมต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล และมีรสชาติที่อร่อยรับประทานง่ายอีกด้วย
รับประทานเห็ดเข็มทองอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ
คนส่วนใหญ่สามารถรับประทานเห็ดเข็มทองได้อย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อควรรู้ในการรับประทานเห็ดเข็มทองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนี้
- การเลือกซื้อเห็ดเข็มทองควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และเลือกซื้อแบบที่สดและมีคุณภาพดี โดยสามารถสังเกตได้จากลักษณะของเห็ดที่ควรเป็นสีขาว ไม่คล้ำ ไม่มีจุด โคนเห็ดแห้ง ไม่มีเมือกลื่น และมีลักษณะเป็นช่อกระจุกรวมกันแน่น
- ก่อนนำเห็ดเข็มทองมาประกอบอาหารควรล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้าง และควรทำให้สุกก่อนรับประทานเพื่อป้องกันการเกิดโรคลิสเทริโอซิส ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ตกค้างอยู่ในเห็ดเข็มทอง
- หากเคยมีอาการแพ้เห็ดเข็มทองหรือตระกูลเห็ดทุกชนิด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดเข็มทอง และควรตรวจสอบฉลากบรรจุอาหารทุกครั้งว่ามีส่วนผสมของเห็ดเข็มทองหรือไม่
แม้ว่าโดยทั่วไปเห็ดเข็มทองจะสามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคนได้เช่นกัน หากหลังจากรับประทานเห็ดเข็มทองแล้วมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หายใจลำบาก และเกิดความสับสน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา