วอเตอร์เครส (Watercress) หรือสลัดน้ำ เป็นผักที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด อย่างแคลเซียม ธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินต่าง ๆ ทั้งยังเชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะสรรพคุณรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
วอเตอร์เครสกับคุณค่าทางโภชนาการ
วอเตอร์เครสเป็นผักที่กินง่าย ซึ่งจะกินสด ๆ กินเป็นสลัด หรือนำไปประกอบอาหารเมนูอื่น ๆ ก็ได้ โดยวอเตอร์เครสปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 11 แคลอรี่เท่านั้น ทั้งยังปราศจากไขมัน และอุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้
- วิตามิน ผักชนิดนี้มีวิตามินเอและวิตามินซีที่มีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโต การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงมีวิตามินเคที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวด้วย
- แร่ธาตุ เช่น แคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูก โพแทสเซียมช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ ธาตุเหล็กช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง และแมงกานีสที่ช่วยในการทำงานของสมองและระบบประสาท เป็นต้น
- กากใยอาหาร ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร และดีต่อระบบขับถ่าย
- สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระและการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน และต้อกระจก
วอเตอร์เครสมีสรรพคุณบำรุงสุขภาพจริงหรือไม่ ?
กระแสการกินวอเตอร์เครสเพื่อประโยชน์ทางสุขภาพและการรักษาโรคนั้น เริ่มเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บางส่วนกล่าวถึงสรรพคุณบางอย่างของวอเตอร์เครส ดังนี้
ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ
มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าวอเตอร์เครสมีสรรพคุณต้านการอักเสบ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอย่างฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูง โดยสารเหล่านี้มีหน้าที่ช่วยยับยั้งกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายที่เป็นตัวการทำลายเนื้อเยื่อและก่อให้เกิดการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในระยะยาวได้ อย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด โรคต้อกระจก และคาดว่าอาจเป็นสาเหตุของริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุด้วย
ทั้งนี้ การลดปริมาณสารอนุมูลอิสระนั้น อาจทำได้โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับสารชนิดนี้เพิ่มขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงการสูดดมมลพิษทางอากาศ รวมถึงการได้รับสารพิษหรือควันบุหรี่ ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และหลีกเลี่ยงรังสีต่าง ๆ รวมถึงรังสียูวี เป็นต้น นอกจากนี้ การกินอาหารที่อุดมไปด้วยสารอนุมูลอิสระที่มักพบได้มากในผักผลไม้ต่าง ๆ รวมถึงวอเตอร์เครสก็อาจส่งผลดีเช่นกัน วอเตอร์เครสจึงอาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในการต้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคที่เกิดจากกระบวนการดังกล่าว
ต้านมะเร็ง
วอเตอร์เครสเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารกลุ่มไอโซไธโอไซยาเนต ซึ่งเชื่อว่ามีฤทธิ์ต้านมะเร็งและพบได้มากในผักตระกูลกะหล่ำ สรรพคุณด้านนี้เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากมีการนำสารสกัดจากวอเตอร์เครสมาทดลองโดยตรง
มีงานวิจัยในหลอดทดลองชิ้นหนึ่งทดสอบสรรพคุณต้านมะเร็งของวอเตอร์เครสเปรียบเทียบกับบร็อกโคลี่ โดยหยดสารสกัดจากผักทั้ง 2 ชนิดลงในเซลล์มะเร็งเต้านม พบว่าสารทั้งคู่ต่างมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ ส่วนงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่หยดสารสกัดวอเตอร์เครสลงบนเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ก็พบว่ามีฤทธิ์ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งชนิดนี้ได้ทั้ง 3 ระยะ คือ ระยะเริ่มต้น ระยะเจริญเติบโต และระยะแพร่กระจาย
นอกจากนี้ งานวิจัยในปีถัดมาที่ทดลองในชายจำนวน 30 คนและหญิงจำนวน 30 คน ทั้งคนที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่ โดยให้ผู้ทดลองกินวอเตอร์เครสสดทุกวัน วันละ 85 กรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ผลการตรวจวัดค่าความเสียหายของ DNA และค่าเอนไซม์ที่บ่งชี้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายพบว่า การกินวอเตอร์เครสอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยลดความเสียหายของ DNA ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ รวมถึงอาจช่วยยับยั้งกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระและการอักเสบ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปว่าวอเตอร์เครสจะมีประโยชน์ในการป้องกันและรักษามะเร็งได้มากน้อยเพียงใด เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ได้จริง ซึ่งในระหว่างนี้ ผู้บริโภคควรกินวอเตอร์เครสอย่างเหมาะสมและคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์และปรึกษาแพทย์ก่อนกินอาหารใด ๆ เพื่อหวังสรรพคุณในการต้านโรคเสมอ
ลดระดับน้ำตาลและไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด
วอเตอร์เครสเป็นที่กล่าวถึงด้านคุณประโยชน์ในการลดไขมันในเลือดด้วย ซึ่งการมีไขมันในเลือดสะสมมากเกินไปนั้นอาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งค้นคว้าในด้านนี้ด้วยการให้หนูทดลองที่เป็นเบาหวานกินสารสกัดจากใบวอเตอร์เครส ผลปรากฏว่าหนูมีระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดลดลง จึงเป็นไปได้ว่าการกินวอเตอร์เครสอาจส่งผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวานที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอย่างไขมันในเลือดสูงด้วยเช่นกัน รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจไปด้วย อย่างไรก็ตาม ควรมีการทดลองโดยตรงกับกลุ่มคนจำนวนมากอย่างรอบคอบและน่าเชื่อถือ ก่อนจะยืนยันข้อสรุปเกี่ยวกับสรรพคุณด้านนี้ของวอเตอร์เครส
กินวอเตอร์เครสอย่างไรให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ?
วอเตอร์เครสเป็นผักที่กินง่ายและกินได้แบบสด ๆ แต่เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์ต่อสุขภาพ ควรเลือกซื้อผักชนิดนี้อย่างพิถีพิถัน โดยเลือกช่อที่ดูสด ใบและก้านมีสีเขียวสดน่ากิน ไม่เหี่ยวหรือไม่มีจุดสีน้ำตาลตามใบ และเก็บรักษาไว้ในช่องแช่ผักผลไม้ของตู้เย็น ซึ่งต้องนำวอเตอร์เครสมาปรุงอาหารภายใน 2 วันหลังจากที่ซื้อมา รวมทั้งต้องไม่ลืมล้างให้สะอาดก่อนนำมากินสดหรือปรุงเป็นเมนูอาหารทุกครั้ง
วอเตอร์เครสกับสรรพคุณในการรักษาโรค
การกินวอเตอร์เครสในปริมาณมาก โดยเฉพาะเพื่อหวังสรรพคุณทางการรักษาโรคต่าง ๆ ตามความเชื่อนั้น สามารถก่อให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนหรือส่งผลเสียต่อไตได้ ทางที่ดีจึงควรกินผักชนิดนี้แต่พอดีและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินวอเตอร์เครสเป็นยารักษาโรคหรือใช้ในรูปแบบอาหารเสริมใด ๆ
- เด็ก เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี
- หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดหรือแท้งบุตรได้ ส่วนหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรก็ควรบริโภควอเตอร์เครสด้วยความระมัดระวัง เพราะปัจจุปันยังไม่มีหลักฐานยืนยันความปลอดภัยของผักชนิดนี้อย่างชัดเจน
- ผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะอาหาร
- ผู้ป่วยโรคไต