เสมหะในคอเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่ก็คงไม่มีใครอยากจะเป็นมากนัก เพราะนอกจากทำให้หายใจไม่โล่งคอ ยังกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย คนที่มีเสมะในคอมากก็มักจะขากเสลดหรือเสมหะออก แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยกำจัดเสมหะในคอออกไปได้
เสมหะประกอบไปด้วยน้ำคัดหลั่ง น้ำตาล โปรตีน แร่ธาตุ ลิพิด (Lipid) และมิวซิน (Mucin) โดยเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจจะผลิตเสมหะออกมา เพื่อช่วยปกป้องและเสริมการทำงานของระบบทางเดินหายใจ โดยดักจับฝุ่น สารก่อภูมิแพ้และไวรัสชนิดต่าง ๆ แต่หากเสมหะในลำคอมีปริมาณมากและลักษณะเปลี่ยนไปอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
การที่ร่างกายผลิตเสมหะมากเกินไปอาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ภูมิแพ้ กรดไหลย้อน โรคหืด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ไข้หวัดใหญ่ โรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดอักเสบ อีกทั้งยังอาจเกิดจากการสาเหตุอื่น ๆ อย่างการสูบบุหรี่หรือการระคายเคืองในจมูกและคอได้เช่นเดียวกัน
มีเสมหะในคอ ทำอย่างไรดี
ในเบื้องต้นอาจบรรเทาอาการและขจัดเสมหะในคอได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อวันจะช่วยลดความเหนียวข้นและกำจัดเสมหะได้ดีขึ้น โดยเฉพาะน้ำอุ่นและน้ำอุณหภูมิห้อง นอกจากนี้ อาจเลือกดื่มเป็นชาปลอดคาเฟอีน น้ำมะนาว น้ำผลไม้หรือน้ำซุป
การฝึกหายใจ
การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ (Airway Clearance Techniques) จะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งและสามารถกำจัดเสมหะในคอได้ง่ายยิ่งขึ้น ในกรณีที่มีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมกับการมีเสมหะในคอ ควรพักผ่อนให้ร่างกายหายดีเสียก่อน และหากการออกกำลังกายทำให้เกิดเสมหะมากขึ้น ควรเลือกบรรเทาอาการด้วยวิธีอื่น ๆ แทน
กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ
การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะช่วยกำจัดเสมหะในคอและบรรเทาอาการเจ็บคอได้ รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสไวรัสหรือเชื้อโรคบางชนิดในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย เนื่องจากเกลือจะดูดน้ำจากเนื้อเยื่อในลำคอออกมา
การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือทำได้โดยผสมเกลือครึ่งช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้ว ค่อย ๆ จิบและกลั้วคอเป็นเวลา 30–60 วินาทีก่อนจะบ้วนน้ำเกลือทิ้ง ในขณะกลั้วคอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้น้ำเกลือทำความสะอาดคออย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ห้ามกลืนน้ำเกลือลงคอ และควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำขวดเพื่อป้องกันการปนเปื้อนคลอรีน (Chlorine)
เพิ่มความชื้นในอากาศ
การเพิ่มความชื้นในอากาศจะช่วยให้ร่างกาย คอ และโพรงจมูกชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ร่างกายลดการผลิตเสมหะลง โดยอาจใช้เป็นเครื่องทำความชื้นไอน้ำแบบเย็น (Cool Mist Humidifiers) แต่ควรเปลี่ยนน้ำและทำความสะอาดเครื่องอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต
เลิกสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้ร่างกายผลิตเสมหะมากขึ้น ผู้ที่มีเสมหะในคอจึงควรเลิกสูบบุหรี่ อีกทั้งการสูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจเรื้อรังและโรคมะเร็งปอดที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
สำหรับใครที่ต้องการใช้ยาช่วยให้เสมหะเบาบางลงหรือกำจัดเสมหะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุของการเกิดเสมหะในคอมากผิดปกติก่อน เมื่อสามารถระบุสาเหตุดังกล่าวได้ก็จะสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม หากอาการยังไม่ดีขึ้นหลังกำจัดเสมหะในลำคอด้วยตนเอง มีเสมหะมากและบ่อยขึ้น หรือมีอาการที่รุนแรงอื่น ๆ ร่วมกับการมีเสมหะ เช่น เจ็บหน้าอก เสมหะเป็นสีชมพู แดงหรือน้ำตาล มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ไอเป็นเลือด หายใจไม่อิ่ม หายใจเป็นเสียงหวีด อ่อนแรงหรือน้ำหนักลด ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม