สะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่ง สามารถแบ่งได้เป็นหลายชนิดย่อย ทำให้อาการของโรคอาจต่างกันไปในแต่ละราย แต่อาการเด่น ๆ ที่มักพบได้ คือ เกิดรอยผื่นสีแดงหนาหรือผื่นที่มีขุยสีขาวปกคลุม เล็บเป็นหลุมขนาดเล็ก เล็บไม่ติดกับเนื้อข้างใต้ เล็บหนา คันผิว ผิวแห้งแตก และอาจมีอาการปวดตามข้อร่วมด้วย
อาการทางผิวหนังจากโรคสะเก็ดเงินสามารถเกิดได้ทั่วร่างกาย แต่บริเวณที่พบได้บ่อยคือ ข้อศอก หัวเข่า ใบหน้า หนังศีรษะ เล็บมือและเท้า บริเวณหลังส่วนล่าง และอวัยวะเพศ โดยความรุนแรงมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยที่เกิดเพียงจุดเล็ก ๆ ไปจนถึงกรณีรุนแรงที่อาการเกิดขึ้นทั่วร่างกาย
สะเก็ดเงินเกิดจากอะไร
ทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ส่งผลให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานผิดปกติไปโดยเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยผลิตเซลล์ผิวหนังออกมากไวและมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่พ่อหรือแม่มีประวัติป่วยเป็นโรคนี้จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้น
ผู้ป่วยสะเก็ดเงินบางคนอาจพบว่ารอยผื่นจะเกิดในลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่างเป็นตัวกระตุ้นให้อาการของโรคสะเก็ดเงินกำเริบได้ โดยปัจจัยที่พบได้บ่อย เช่น ความเครียด อาการบาดเจ็บทางผิวหนัง สภาพอากาศแห้งและเย็น การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การใช้ยาบางชนิด และการติดเชื้อ
สะเก็ดเงินเป็นโรคติดต่อไหม รักษาได้อย่างไร
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังที่ไม่ติดต่อหรือแพร่ไปสู่ผู้อื่น โดยปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แต่การรักษาอาจช่วยควบคุมอาการและช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยสะเก็ดเงินมักเกิดผื่นในลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ
วิธีการรักษาสะเก็ดเงินจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและดุลยพินิจของแพทย์ โดยมีทั้งการทายา การฉายแสง การรับประทานยา และการฉีดยา รวมถึงแพทย์จะให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างร่วมด้วย เช่น ทาครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ไม่เกาบริเวณที่เกิดผื่น และหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือตัวกระตุ้นต่าง ๆ
ดังนั้น ผู้ที่กำลังเข้ารับการรักษาโรคสะเก็ดเงินควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากคาดว่าตนเองอาจเป็นสะเก็ดเงินหรือพบอาการคล้ายกับโรคนี้ สามารถไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาที่เหมาะสม
