อันตรายจากบารากุ (Baraku) ผลกระทบต่อสุขภาพที่ควรรู้

ด้วยความเชื่อที่ว่าการสูบบารากุหรือบารากู่ (ฺBaraku) เป็นตัวช่วยในการเลิกบุหรี่ ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่โดยตรง อีกทั้งยังมีรสชาติหอมหวานชวนให้ผ่อนคลาย ทำให้บารากุกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักสูบชายหญิงไม่น้อย แต่รู้หรือไม่ การสูบบารากุอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพใกล้เคียงกับการสูบบุหรี่ มิหนำซ้ำยังอาจขัดต่อข้อกฎหมายด้วย 

บารากุหรือรู้จักกันในชื่อต่าง ๆ อย่างชิชา (Shisha) หรือฮุคคา (Hookah) เป็นคำเรียกการสูบยาสูบด้วยเตาและหม้อสูบชนิดพิเศษ ใบยาสูบที่นำมาใช้มักปรุงแต่งด้วยน้ำผึ้งหรือกากน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวาน สมุนไพร พืช หรือผลไม้ตากแห้งที่มีกลิ่นและรสชาติหลากหลาย เช่น องุ่น สตรอว์เบอร์รี แตงโม ส้ม กุหลาบ กาแฟ รวมถึงสารอื่น ๆ ตามความต้องการของนักสูบ 

อันตรายจากบารากุ (Baraku) ผลกระทบต่อสุขภาพที่ควรรู้

ในปัจจุบัน บารากุอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 เช่นเดียวกับบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยจัดเป็นสินค้าห้ามนำเข้า ส่งออก จำหน่าย และให้บริการแก่ผู้สูบ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกหรือปรับเป็นจำนวนเงินตามที่กฎหมายกำหนด หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสูบบารากุ

กลิ่นและรสชาติที่น่าลิ้มลองของบารากุอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้สูบรู้สึกปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ควันบารากุมีส่วนประกอบของสารพิษที่คล้ายคลึงกับในบุหรี่ เช่น นิโคติน ทาร์ เบนซีน โลหะหนัก อย่างตะกั่ว สารหนู โครเมียม และแคดเมียม 

นอกจากนี้ ยังมีสารที่เกิดจากการเผาไหม้ อย่างคาร์บอนมอนอกไซด์และสารก่อมะเร็งต่าง ๆ มากกว่าควันบุหรี่หลายเท่า ยิ่งสูบเป็นเวลานาน ปริมาณสารพิษจะยิ่งสะสมอยู่ในร่างกาย อีกทั้งควันบารากุที่สูบผ่านน้ำยังคงมีสารพิษระดับสูงที่เป็นอันตรายด้วย จึงยากที่จะเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการสูบบารากุ ดังนี้ 

  1. ปัญหาสุขภาพช่องปาก

ที่จริงการสูบบารากุอาจไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือปัญหาสุขภาพภายในช่องปาก เช่น อาการแสบร้อนช่องปาก ประสาทรับรสเสื่อมลง ฟันและลิ้นเป็นคราบ เชื้อราในปาก โรคเหงือก รวมถึงส่งผลต่อกระบวนการสมานแผลหรือทำทันตกรรมภายในช่องปากด้วย

  1. ปัญหาในระบบทางเดินหายใจ

การสูบบารากุนั้นส่งกระทบต่ออวัยวะในระบบทางเดินหายใจอย่างมาก แม้สูบเป็นระยะเวลาไม่นานก็อาจกระทบต่อการทำงานของปอดจนเกิดปัญหาด้านการหายใจ หายใจได้ลำบากเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกาย ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ปอดทำงานบกพร่อง และเกิดโรคในระบบทางเดินหายใจอื่นได้มากขึ้น เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด หรือโรคหลอดลมอักเสบ  

  1. ปัญหาหัวใจและหลอดเลือด

โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นอีกปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสูบบารากุ โดยผู้สูบอาจมีอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตสูงขึ้น อีกทั้งยังมีปริมาณคอเลสตรอลชนิดไม่ดี (LDL) สูงขึ้น และมีคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ต่ำลง 

ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่าง ๆ ได้ในอนาคต เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดแข็งตัว และหลอดเลือดอุดตัน  

  1. ความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

เนื่องจากควันของบารากุมีส่วนประกอบของสารก่อมะเร็งเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ ผู้สูบบารากุเป็นประจำในปริมาณมากและสูบครั้งละนาน ๆ จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้แทบทุกส่วนของร่างกาย เช่น มะเร็งช่องปาก มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 

  1. การเสพติดบารากุ

ใครที่สูบบารากุหรือสนใจการสูบบารากุแทนการสูบบุหรี่ หนทางนี้อาจเป็นทางเลือกที่ผิด เพราะนอกจากจะเลิกบุหรี่ไม่ได้แล้ว ยังอาจเสพติดการสูบบารากุไปด้วย เนื่องจากควันบารากุมีสารนิโคตินที่เป็นต้นเหตุของการเสพติดผสมอยู่ อีกทั้งการปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติยังดึงดูดให้คนสูบบารากุง่ายขึ้นด้วย ทำให้ผู้สูบอยากสูบต่อไปเรื่อย ๆ 

มีการศึกษาบางส่วนพบว่า หากสูบบารากุเป็นเวลานาน 45 นาที จะเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ถึง 9 มวน และการสูบบารากุนานประมาณ 1 ชั่วโมง จะได้รับสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายมากกว่าการสูบบุหรี่เพียงมวนเดียวถึง 1.7 เท่า

  1. ผลกระทบในด้านอื่น  

นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น การสูบบารากุยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ อีก เช่น การสูบบารากุในระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อตัวมารดา ทารกในครรภ์ และทารกแรกคลอด โดยอาจทำให้ตั้งครรภ์นอกมดลูก ทารกโตช้าในครรภ์ ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย เสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม และทารกมีความเสี่ยงของโรคในระบบทางเดินหายใจในเพิ่มขึ้น 

นอกจากนี้ การใช้ปากสายยางสูบบารากุร่วมกับผู้อื่นยังอาจเสี่ยงติดเชื้อโรคต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด โรคโควิด-19 ไวรัสตับอักเสบเอ เริม หรือแม้กระทั่งวัณโรค โดยเฉพาะผู้สูบที่ไม่ได้ทำความสะอาดอุปกรณ์สูบบารากุอย่างถูกวิธี 

แม้ไม่ใช่ผู้สูบบารากุโดยตรงก็อาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้ หากสูดดมควันบารากุมือสองเป็นประจำ แม้จะอยู่ในสถานที่เปิดโล่ง โดยเฉพาะผู้มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจอยู่ก่อน และเด็ก ๆ ที่เป็นวัยกำลังเจริญเติบโต 

จะเห็นได้ว่าการสูบบารากุแทบไม่ต่างอะไรจากการสูบบุหรี่เลย หากไม่อยากให้ตัวเองและคนรอบข้างเผชิญกับปัญหาสุขภาพในอนาคตก็ควรเลิกสูบบารากุ รวมถึงบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และใบยาสูบรูปแบบอื่นตั้งแต่เนิ่น ๆ หากพยายามเลิกด้วยตัวเองแล้วไม่ได้ผลสามารถโทรหาสายด่วน 1600 หรือปรึกษาแพทย์ในการวางแผนเลิกหรือบำบัดบารากุและบุหรี่อย่างถูกต้องได้