ความรู้สึกเจ็บแปลบที่บริเวณเต้านมอาจทำให้ผู้หญิงหลายคนสงสัยว่านี่อาจเป็นอาการมะเร็งเต้านม ซึ่งแท้จริงแล้ว มะเร็งชนิดนี้แทบไม่แสดงอาการในระยะแรกเริ่ม แต่ผู้หญิงทุกคนก็ควรเฝ้าระวังและใส่ใจถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกของเต้านมและหัวนม รวมถึงศึกษาเกี่ยวกับสัญญาณและอาการมะเร็งเต้านม เพราะอาจช่วยให้ผู้ป่วยรู้ตัวเร็วขึ้นได้
ในปัจจุบัน มะเร็งเต้านมพบมากเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงทั่วโลก และยังมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี ดังนั้นหากมีความเสี่ยง หรือสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบริเวณเต้านมควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะอาจช่วยให้พบมะเร็งในระยะแรกเริ่มได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายได้มากขึ้นด้วย
มะเร็งเต้านมเป็นอย่างไร ?
มะเร็งเต้านมเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ภายในเต้านมเจริญเติบโตผิดปกติลุกลามเนื้อเยื่อข้างเคียง จนไม่สามารถควบคุมได้ กลายเป็นเนื้องอกที่อาจมองเห็นได้จากการตรวจเอ็กซ์เรย์ อัลตราซาวน์ หรือคลำแล้วพบก้อนเนื้อ ซึ่งหากเป็นก้อนเนื้อร้ายก็จะลุกลามไปยังเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบและสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ทั้งนี้ แม้มะเร็งเต้านมมักจะเกิดขึ้นในเพศหญิง แต่เพศชายก็สามารถพบได้เช่นกันในอัตราที่น้อยมาก
อาการมะเร็งเต้านม
อาการมะเร็งเต้านมแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ แสดงออกมา โดยตัวอย่างอาการที่ไม่ควรมองข้ามมีดังต่อไปนี้
- มีก้อนเนื้อก้อนใหม่เกิดขึ้นในเต้านมซึ่งไม่หายไปหลังหมดประจำเดือน
- ขนาดหรือรูปร่างของเต้านมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- เต้านมบวมทั่วทั้งเต้าหรือบวมเพียงบางส่วน
- ผิวหนังบริเวณเต้านมเกิดอาการระคายเคือง หรือมีรอยบุ๋ม โดยบางครั้งอาจมีลักษณะขรุขระคล้ายผิวส้ม
- ผิวหนังบริเวณเต้านมหรือหัวนมแดง ตกสะเก็ดและหนาขึ้น
- เจ็บหัวนม หัวนมบุ๋ม หรือมีน้ำเหลืองหรือของเหลวสีคล้ายเลือดไหลออกมา
- ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้โต
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
เนื่องจากอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ อย่างอาการหัวนมมีน้ำเหลืองหรือของเหลวสีคล้ายเลือดไหลออกมานอกจากจะมีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งแล้วยังอาจเกิดจากการติดเชื้อได้อีกด้วย ผู้ป่วยจึงควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดหากมีสัญญาณอาการดังกล่าวเกิดขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ เพศชายก็สามารถป่วยเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน แต่มักพบได้น้อยมากและพบในผู้สูงอายุเสียส่วนใหญ่ ซึ่งอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- มีก้อนเนื้อเกิดขึ้น หรือเนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกหนาขึ้น
- หัวนมแดง ตกสะเก็ด มีรอยบุ๋ม หรืออาจมีน้ำเหลืองหรือของเหลวสีคล้ายเลือดไหลออกมา
- ผิวหนังบริเวณเต้านมมีอาการบวมแดง เกิดการระคายเคือง คันหรือมีผื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ
อย่างไรก็ตาม หากอาการที่เกิดขึ้นได้เหล่านี้สร้างความกังวลใจแก่ผู้ป่วย หรือพบการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ บริเวณเต้านม ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมแน่หรือไม่ โดยแพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจเอกซเรย์เต้านมหรืออัลตราซาวน์เต้านม หรือทั้งสองอย่างเพิ่มเติม