อาการโรคหลอดเลือดสมองเป็นอาการที่ผู้ป่่วยและครอบครัวควรตระหนักถึง เนื่องจากอาการของโรคดังกล่าวอาจนำไปสู่ภาวะที่เป็นอันตราย อย่างอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ รวมทั้งยังอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้อีกด้วย แต่หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจลดความรุนแรงเหล่านั้นได้ ดังนั้น การศึกษาอาการของโรคนี้จึงจะช่วยให้สังเกตเห็นความผิดปกติของคนรอบข้างและนำตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว โดยบทความนี้ได้รวบรวมสัญญาณและอาการของโรคหลอดเลือดสมองมาให้ได้ศึกษากัน
โรคหลอดเลือดสมอง มีสาเหตุจากหลอดเลือดในสมองที่ตีบ แตก หรืออุดตัน โดยเกิดได้จากหลายปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ โดยอาการของโรคหลอดเลือดสมองอาจปรากฎได้หลายรูปแบบและอาจนำไปสู่ความพิการชั่วคราว ถาวรหรืออาจส่งผลให้ผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมองอาจทำให้เกิดอาการที่ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนี้
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง บริเวณใบหน้า แขน ขา หรือร่างกายซีกใดซีกหนึ่ง
- อาการชา รู้สึกคล้ายเข็มทิ่มตามผิวหนัง
- ปวดศีรษะอย่างฉับพลัน ต่อเนื่อง หรือปวดอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ
- ปากเบี้ยว มีปัญหาในการสื่อสาร พูดไม่ชัด หรือไม่เข้าใจที่ผู้อื่นพูด หรือมีปัญหาในการกลืนน้ำ และอาหาร
- มีปัญหาในการมองเห็น อย่างตาพร่า หรือเห็นภาพซ้อน
- รู้สึกสับสน บ้านหมุน เสียการทรงตัว เดินไม่ตรง และมีปัญหาในการควบคุมร่างกาย
- หมดสติ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
รู้ทันอาการโรคหลอดเลือดสมองด้วยหลัก FAST
FAST เป็นตัวย่อของวิธีการสังเกตอาการโรคหลอดเลือดสมองสำหรับบุคคลทั่วไป ช่วยให้สังเกตและจดจำได้ง่าย โดยหากเกิดอาการที่ปรากฏตามหลัก FASTควรรีบโทรเรียกสายด่วน 1669 หรือโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อเรียกรถพยาบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรค และความความพิการได้
F A S T สามารถสังเกตได้ ดังนี้
- F ย่อมาจาก Face หรือใบหน้า หมายถึงอาการหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว มุมปากข้างหนึ่งตก
- A ย่อมาจาก Arm หรือแขน หมายถึงภาวะกล้ามเนื้อแขนอ่อนแรง ไม่สามารถควบคุมหรือยกแขนขึ้นได้
- S ย่อมาจาก Speech หรือคำพูด หมายถึงความผิดปกติในการพูด อย่างพูดไม่ชัด พูดผิด หรือพูดไม่คล่อง
- T ย่อมาจาก Time หรือเวลา ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทันทีเมื่ออาการของโรคปรากฏขึ้น หรือนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลภายใน 4 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ โดยในระยะเวลานี้ผู้ป่วยจะมีโอกาสฟื้นฟูร่างกายกลับมาแข็งแรงได้มากที่สุด